5 สุดยอดนักเตะที่ย้ายทีมแบบไร้ค่าตัว | TunGame

เป็นข่าวที่โด่งดังอย่างมากเมื่อไม่นานมานี้ที่ลิโอเนล เมสซี่ ตำนานที่ยังหายใจของ บาร์เซโลน่า จำใจลาจากต้นสังกัดสิ้นสุดเส้นทางอาชีพกับเจ้าบุญทุ่มไว้ที่ 17 ฤดูกาลด้วยกันแน่นอนว่าสถานีต่อไปของกัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่าที่เพิ่งได้แชมป์แรกกับทีมชาติมาหมาดๆคงหนีไม่พ้นทีมที่มีความสามารถในการให้ค่าเหนื่อยระดับมหาศาลกับนักเตะรายนี้ได้ไม่ว่าจะเป็น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือเชลซี ที่ทั้งหมดพร้อมจะประเคนค่าเหนื่อยไม่อั้นให้กับเมสซี่แน่นอนนี่เป็นหนึ่งในโอกาสเพียงไม่กี่ครั้งที่ยอดนักเตะฝีเท้าระดับนี้จะสามารถเซ็นสัญญากับสโมสรไหนก็ได้แบบไร้ค่าตัวแน่นอนว่าเขาไม่ใช่นักเตะรายแรกที่จะย้ายสังกัดแบบไร้ค่าตัววันนี้ทีมงานทันเกมพามาส่องยอดนักเตะที่ย้ายแล้วเปรี้ยงมาให้ทุกคนได้อ่านกัน

1. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (โบรุสเซียดอร์ทมุน ไป บาเยิร์น มิวนิค ฤดูกาล 2014-2015)

สุดยอดกองหน้าที่เริ่มโด่งดังกับเสือเหลือง โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิมและย้ายไปเล่นให้กับอริร่วมลีกอย่างบาเยิร์นมิวนิค ซึ่งแน่นอนว่าการย้ายทีมในครั้งนี้ต่อยอดความสำเร็จให้กับทั้งเสือใต้และเลวานดอฟสกี้อย่างยิ่งใหญ่การันตีด้วยทุกแชมป์ที่ บาเยิร์น มิวนิคจะคว้าได้ อีกทั้งกระหน่ำไปถึง 203 ประตูจาก 219 นัดในลีก โดยการย้ายตัวของเขาถือเป็นการตัดสินใจเซ็นสัญญาที่คุ้มค่ามากที่สุดครั้งหนึ่งของทั้งเสือใต้บาเยิร์น มิวนิค และตำนานทีมชาติโปแลนด์เลยก็ว่าได้

2. โซล แคมป์เบลล์ (ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ไป อาร์เซน่อล ฤดูกาล 2001-2002)

ฉายาจูดาสที่แฟนบอลใช้เรียกคนทรยศอย่าง โซลแคมป์เบลล์ ได้มาเมื่อครั้งที่เขาตัดสินใจย้ายจาก ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ไปอยู่กับอริร่วมกรุงลอนดอนอย่างอาร์เซน่อล เมื่อปี 2001 ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แฟนบอลสเปอร์สไม่สามารถให้อภัยได้อย่างแน่นอนแต่หากจะถามถึงแฟนบอล อาร์เซน่อล ในยุคนั้นแล้วกองหลังร่างบึ๊กรายนี้คือสุดยอดการเซ็นสัญญาเลยด้วยซ้ำเพราะเขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อาร์เซน่อลได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษถึง 2 สมัย และเอฟเอคัพอีก 3 สมัยด้วยกัน โดยเฉพาะแชมป์ไร้พ่ายของทีมปืนใหญ่ในฤดูกาล 2003/04

3. อันเดรีย ปิร์โล่ (เอซี มิลานไป ยูเวนตุส ฤดูกาล 2011-2012)

ถึงแม้จะลงเล่นให้กับปีศาจแดงดำ เอซีมิลาน ถึง10 ฤดูกาล แต่สโมสรตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับกองกลางเท้าชั่งทองวัย32 ปีในขณะนั้น ซึ่งยอดทีมจากตูรินอย่าง ยูเวนตุส ไว้วางใจและอ้าแขนรับนักเตะมากประสบการณ์อย่างปิร์โล่ให้มาบัญชาการเกมในแดนกลางโดยปิร์โล่ตอบแทนความไว้ใจนั้นได้อย่างคุ้มค่าด้วยการพาทีมม้าลายคว้าแชมป์เซเรีย อาไปถึง4 สมัยติดต่อในช่วงระหว่างปี 2011-2015

4. ปอล ป๊อกบา (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไป ยูเวนตุส ฤดูกาล 2012-2013)

เรียกได้ว่ากองกลางชาวฝรั่งเศสผมเฟี้ยวรายนี้ถือเป็นดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองอย่างมากทั่วทั้งยุโรปและหลากหลายสโมสรก็ต้องการตัวเขาไปร่วมทัพในขณะนั้น ความสามารถและพรสวรรค์ของเขานั้นก็ไม่ได้ถูกมองข้ามโดยบรมกุนซืออย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันแต่อย่างใด แต่เป็นเอเยนต์ชื่อดังอย่าง มิโน่ ไรโอล่า ที่เกลี้ยกล่อมให้ปอล ป็อกบ้า ย้ายออกจากถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดไปคว้าแชมป์กับม้าลายยูเวนตูสแบบไร้ค่าตัวภายหลังจากคว้าแชมป์ลีกอิตาลีจนหน่ำใจแล้ว ยูเว่ก็ตัดสินขาย ปอล ป็อกบา กลับมาให้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ด้วยค่าตัวสูงถึง 89 ล้านปอนด์ โดยกองกลางจอมลีลารายนี้ได้ฝากผลงานไว้กับยอดทีมเมืองตูรินด้วย4 แชมป์เซเรีย อา 2 แชมป์โคปาอิตาเลียตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลที่อยู่กับสโมสร

5. มิชาเอล บัลลัค (บาเยิร์นมิวนิค ไป เชลซี ฤดูกาล 2006-2007)

ตำนานทีมชาติเยอรมันในวัย 29 ปีในขณะนั้น ตัดสินใจย้ายออกไปเล่นนอกประเทศตัวเองเป็นครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้งและการย้ายทีมในครั้งนั้นไม่ได้เป็นที่พึงพอใจต่อแฟนบอลเสื้อใต้บาเยิร์น มิวนิคเท่าไรนักเพราะตัวนักเตะเพิ่งจะมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับทีมและทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำแม้จะเล่นในแดนกลางบัลลัคได้ตัดสินใจปฏิเสธการต่อสัญญากับเสือใต้และเลือกไปรับทรัพย์ก้อนโตกับสิงโตน้ำเงินครามเชลซี ในยุคของมูรินโญ่ แน่นอนว่าเขาก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชม์พรีเมียร์ลีกอังกฤษไป1 สมัย รวมถึงคว้าถ้วยเอฟเอคัพอีก3 สมัยด้วยกัน

เราจะสังเกตุเทรนด์ได้ว่าการย้ายสังกัดแบบไร้ค่าตัวเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในวงการฟุตบอลยุคหลังๆที่นักเตะเริ่มมีเอเยนต์ทำหน้าที่ทุกอย่างให้และหาดีลที่ทำให้ตัวนักเตะได้ผลประโยชน์สูงสุด นักเตะที่มากความสามารถและเป็นที่ต้องการของทีมใหญ่ๆมากมายย่อมไม่พลาดที่จะใช้เงื่อนไขนี้ให้เป็นประโยชน์เพราะนักเตะที่ต้องการจะย้ายทีมนั้นก็จะได้รับค่าเหนื่อยที่มากขึ้นเพราะทีมฟุตบอลเองก็ไม่ต้องการจ่ายค่าตัวแพงๆให้กับต้นสังกัดเดิมของนักเตะซึ่งซุปเปอร์สตาร์อีกคนที่ได้รับการจับตามองว่าเขาจะเลือกต่อสัญญาหรือย้ายทีมสิ้นฤดูกาลนี้ก็คือปอล ป็อกบา ดังนั้นเราต้องมาดูกันว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสามารถรั้งตัวกองกลางดีกรีแชมป์โลกผู้นี้เอาไว้ได้หรือไม่

support

support

แชร์เนื้อหา