ซีรีส์ทำความรู้จักตำนานเชลซีคนที่ 1: จานฟรังโก้ โซล่า | TunGame

ย้อนไปฤดูกาล 1996/97 เชลซีภายใต้การคุมทีมของรุด กุลลิทตัดสินใจใช้เงิน 4.5 ล้านปอนด์ กระชากตัวจานฟรังโก้ โซล่า เพลย์เมคเกอร์ร่างเล็กชาวอิตาเลี่ยนวัย 30 ปีมาจากปาร์ม่า ในเวลานั้นไม่มีใครคิดว่าโซล่าจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากด้วยรูปร่างที่เล็ก ทำให้หลายคนมองว่าไม่เหมาะแก่การปะทะในพรีเมียร์ลีก แต่โซล่าก็ได้พิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นนักเตะที่เชลซีขาดไม่ได้

โดยจานฟรังโก้ โซล่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของ“ซีรีส์ทำความรู้จักตำนานเชลซี”ที่จะมาแนะนำนักเตะตำนานของเชลซีทีละคน โดยจะเน้นไปที่เหตุใดพวกเขาเหล่านั้นถึงได้กลายมาเป็นตำนานของสโมสรอันดับหนึ่งแห่งกรุงลอนดอน

ความสามารถที่หาตัวจับยาก

ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการเลี้ยงบอล การจ่ายบอล การยิงประตู (โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกฟรีคิก) การขยันวิ่งไล่บอล และที่สำคัญที่สุดการใช้รูปร่างที่เล็กของตัวเองให้เกิดประโยชน์ในการเข้าปะทะกับคู่แข่ง โซล่าสามารถทำมันได้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าเมื่อโซล่าลงสนามเมื่อไร ก็จะโดนฝั่งตรงข้ามเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และเมื่อไรก็ตามที่โซล่าไม่ได้ลงสนาม เกมรุกของเชลซีก็จะฝืดลงไปอย่างเห็นได้ชัด

ถึงแม้เจ้าตัวจะอายุ 30 ปีแล้วตอนที่ย้ายมาเชลซี แต่ก็ยังมีพละกำลังอันเหลือล้นและลีลาการเล่นที่ดูตื่นตาตื่นใจ จนทำให้แฟนบอลสิงโตน้ำเงินครามรวมถึงแฟนบอลทุกทีมในพรีเมียร์ลีกต่างชื่นชอบในตัวโซล่า ถึงขนาดเอาไปเปรียบเทียบกับดีเอโก้ มาราโดน่า ผู้ที่เคยเป็นอาจารย์ของโซล่าสมัยตอนเล่นให้นาโปลีนั่นเอง

ถ้วยรางวัลและเกียรติประวัติ

จานฟรังโก้ โซล่าลงเล่นกับเชลซีทั้งหมด 7 ฤดูกาล และสามารถคว้าถ้วยแชมป์ให้สโมสรอย่างมากมาย ได้แก่ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ: 1997–98 , ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ: 1998, เอฟเอ คัพ: 1996–97, 1999–2000, ลีก คัพ: 1997–98 และแชร์ริตี้ ชิลด์: 2000

ไม่เพียงแค่นั้น ในฤดูกาลแรกที่โซล่าลงเล่นในพรีเมียร์ลีก เจ้าตัวก็สามารถคว้ารางวัล FWA Player of the Year ได้สำเร็จ โดยเป็นนักเตะคนแรกของเชลซีที่คว้ารางวัลนี้ และเป็นนักเตะคนเดียวที่คว้ารางวัลโดยที่ไม่ได้ลงเล่นเต็มฤดูกาล (ในช่วงนั้นนักเตะสามารถย้ายทีมได้ตลอดเวลา โดยที่ไม่ได้มีเวลาเปิด-ปิดตลาดซื้อขายนักเตะเหมือนในปัจจุบัน)

นอกจากนั้นเจ้าตัวยังถูกแต่งตั้งให้เป็นอัศวินชั้น OBE ของอังกฤษ ในปี 2004 และอีก 2 ปีต่อมาชื่อของโซล่าก็ได้ถูกจารึกไว้ในหอเกียรติยศของสมาคมฟุตบอลอังกฤษอีกด้วย

ผลงานส่วนตัวและภาพลักษณ์

จานฟรังโก้ โซล่าได้พาเชลซีผ่านเข้าไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรในฤดูกาล 1999-2000 ซึ่งผลงานของโซล่าก็ค่อนข้างสม่ำเสมอมาโดยตลอด แม้แต่ในฤดูกาลสุดท้ายของเจ้าตัวกับทีมในฤดูกาล 2002-03 ก็ยังซัดได้ถึง 16 ลูกรวมทุกรายการ สรุปแล้วโซล่าลงเล่นภายใต้สีเสื้อเชลซีทั้งหมด 311 นัด ยิงไปทั้งสิ้น 80 ประตู

นอกจากผลงานในการเล่นที่คงเส้นคงวาของโซล่า อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เจ้าตัวเป็นที่รักของแฟนบอลก็คือการเป็นสุภาพบุรุษทั้งในและนอกสนาม เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่เล่นฟุตบอลอย่างขาวสะอาดที่สุดคนนึงของวงการ แทบไม่เคยมีปัญหากับนักเตะคนอื่นหรือผู้ตัดสินเลย ซึ่งหาได้ยากมาก

เมื่อรวมทุกสิ่งทุกอย่างที่โซล่าทำในสีเสื้อของเชลซี จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่แฟนบอลสิงโตน้ำเงินครามจะยกให้เขาเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร รวมถึงนักเตะรุ่นใหม่ที่ย้ายมาเชลซีต่างก็ให้เกียรติโซล่าด้วยการเว้นเสื้อหมายเลข 25 ไว้โดยที่ไม่มีใครเคยใส่หมายเลขนี้อีกเลย ทั้งๆที่สโมสรก็ไม่เคยประกาศรีไทร์เบอร์เสื้ออย่างเป็นทางการ นี่จึงถือเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นตำนานของโซล่าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

โปรดติดตาม”ซีรีส์ทำความรู้จักตำนานเชลซี”ตอนต่อไป