รีวิว ฝรั่งเศส เฉือน โมร็อกโก เข้าชิง | ผลบอลสด

ขอบคุณบทความจาก Winwinna 88

จบไปแล้วสำหรับ ฟุตบอลโลก รอบรองชนะเลิศคู่ที่สอง ระหว่าง ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์เก่า โคจรมาพบกับ ทีมชาติโมร็อกโก ม้ามืดแห่งศึกฟุตบอลโลก 2022 และเป็น ทัพตราไก่ ที่เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 0 ดับฝันการเข้าชิงครั้งแรกของประเทศจากทวีปแอฟริกา ทำให้ ทัพตราไก่ สามารถเข้าไปป้องกันแชมป์กับ ทัพฟ้าขาว ได้สำเร็จ

ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ

ก่อนเริ่มเกม ทั้งสองฝ่ายต่างประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ โดยฝั่งทีมชาติฝรั่งเศส ไม่มีกองหลังอย่าง อูปาเมกาโน่ ที่ไม่ฟิตทำให้ โคนาเต้ ต้องลงไปเล่นแทนโดยจับคู่เซนเตอร์กับ วาราน ขณะที่มิดฟิลด์อย่าง ราบิโอต์ ก็มีปัญหาบาดเจ็บ โดย โฟฟาน่า ได้รับโอกาสลงไปยืนคุมแดนกลางร่วมกับ ชูอาเมนี่ ในเกมนี้แทน ในส่วนของ ทีมชาติโมร็อกโก ได้ข่าวดีที่ปราการหลังกัปตันทีมอย่าง ซาอิสส์ ฟิตกลับมาลงสนามได้เช่นเดียวกับแบ็คซ้ายอย่าง มาซราอุย 

ตราไก่นำเร็ว

เปิดมายังไม่ทันนั่งอย่างสบายอกสบายใจ ทัพตราไก่ ก็ออกนำเพียงแค่ 5 นาที หลังจากเสียงนกหวีตดังเท่านั้น โดยเป็น เตโอ เอร์นายเดซ ยิงจ่อๆ จากลูกที่กระดอนบล็อกไปทางเสาสอง การขึ้นนำเร็วแบบนี้เรียกว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นการปลดล็อคการทำประตูใส่โมร็อกโก ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นทีมจอมเหนียวที่เสียประตูแค่ลูกเดียว และจเป็นการโจมตีจุดอ่อนของโมร็อกโก นั่นคือเกมรุกที่จำเป็นต้องทำประตูตีเสมอให้ได้ เปิดโอกาสให้ทัพตราไก่ รอสวนโดยมีเอ็มบัปเป้เป็นอาวุธหนัก

โมร็อกโกป้วนเปี้ยน ฝรั่งเศสสวนหนัก

หลังจากเสียประตูแรกเร็ว โมร็อกโก ก็มีโอกาสได้ครองบอลอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ทำได้แค่ป้วนเปี้ยนไปมาหน้ากรอกเขตโทษ กลับเป็น ทัพตราได่ ที่สวนกลับแต่ละครั้งดูได้น้ำได้เนื้อกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองทีมก็ยังไม่สามารถทำประตูกันได้เพิ่มเติม

สัมผัสแรก มูอานี่ลงสำรองแปจ่อๆ ตราไก่ นำห่าง 2-0 

ทัพตราไก่มาได้ประตูนำห่างเป็น 2 ต่อ 0 จาก มูอานี่ โดยเป็นประตูที่ได้จากการโต้กลับ และเป็นเอ็มบัปเป้ ที่โชว์สเต็ปลากเลื้อย ก่อนยิงแฉลปไปที่ทางเสาสองที่ซึ่งมูอานี่รออยู่ และยิงจ่อๆเข้าไป ในนาทีที่ 79

เกือบสนุกท้ายเกม

ทีมชาติโมร็อกโก ไม่มีอะไรจะเสีย ยังคงเดินหน้าบุกหวังจะทำประตูตีไข่แตกให้ได้ โดยในนาทีที่ 90+4 เป็นจังหวะที่เกือบได้สุดๆ อูนาฮีได้วอลเลย์แล้วบอลติดบล็อคแฉลบไปเข้าทางฮัมดัลลาห์ที่แปเปลี่ยนทางแต่ก็ยังไปติดคุนเด้ที่เคลียร์ออกมาจากหน้าปากประตู เกือบจะตีไข่แตกและลุ้นการต่อเวลาได้

ตราไก่ทำได้ ลุ้นรักษาแชมป์ พบฟ้าขาว

สุดท้ายเป็นทีมชาติฝรั่งเศสที่สามารถเอาชนะม้ามืดแห่งรายการนี้ลงไปได้ เข้าไปชิงชนะเลิศกับ ทีมฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ในวันที่ 18 ธันวาคม เวลา 22.00 น. แล้วเรามาลุ้นกันว่าจะทีมชาติฝรั่งเศสจะสามารถป้องกันแชมป์ได้เป็นชาติแรกในรอบ 60 ปีหรือไม่ หรือจะเป็นเทพนิยายที่ถูกเขียนให้เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาลของเมสซี่กันแน่ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้