วิเคราะห์หลังเกมแมนยูนอริช | Tungame

สรุปผลบอลพรีเมียร์ลีกคู่ดึกที่ผ่านมาผีแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเฉือนชนะนกขมิ้นนอริชซิตี้ไปด้วยลูกจุดโทษของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วันนี้ทีมงานทันเกมได้วิเคราะห์ความเปลี่ยนไปของแมนยูภายใต้การคุมทีมนัดที่สามของกุนซือคนใหม่อย่างราล์ฟรังนิกกัน สิ่งที่น่าสนใจและทำให้สื่อหลายสำนักจับตามองเกมนี้เพราะเกมนี้ถือเป็นเกมแรกในพรีเมียร์ลีกจริงๆที่ราล์ฟได้มีเวลาในการคุมฝึกซ้อมเพื่อวันแข่งขัน 1 สัปดาห์เต็มๆ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลยครับ
ดันสูงแต่ไม่ต้องไล่กวดแดนหน้า
เกมในวันนี้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดใช้ผู้เล่นชุดเดิมทั้งหมดในการมาเยือนเจ้านกขมิ้นในเกมนี้ แต่วิธีการเล่นทั้งเกมรับและเกมรุกมีความแตกต่างจากเกมกับคริสตัลพาเลซในนัดก่อนหน้าอยู่ประมาณหนึ่ง ในวันนี้กุนซือชาวเยอรมันเลือกที่จะให้ลูกทีมตัวเองดันขึ้นสูงในแดนคู่แข่งแต่ไม่วิ่งกวดไล่บอลมากนัก แสดงให้เห็นถึงการเลือกใช้แทคติกทั้งสองรูปแบบแม้จะใช้ผู้เล่นชุดเดียวกันก็ตาม โดยผู้เขียนคิดว่าสาเหตุหลักๆที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่กวดไล่บอลตั้งแต่แดนหน้าเพราะทีมของดีนสมิธเองก็มีการขึ้นบอลที่น่ากลัว และสามารถแก้เพรสซิ่งในแดนหน้าได้ค่อนข้างดีเหมือนกัน
แม็คเฟร็ดโซลชา ≠ แม็คเฟร็ดราล์ฟ
ตลอดเกมการแข่งขัน 90 นาทีผู้เล่นทุกคนของแมนยูส่งบอลขึ้นแดนหน้าในเวลาอันรวดเร็วและแม่นยำมากกว่ายุคของโซลชาเป็นอย่างมาก นี่เป็นสิ่งที่รังนิกได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ตั้งแต่การสัมภาษณ์ก่อนเกมกับพาเลซว่าผู้เล่นเกมรุกคือจุดเด่นที่สุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชุดนี้ และเขาก็ต้องการนำบอลผ่านไปในแดนคู่แข่งให้ได้เร็วที่สุด และครองบอลไว้ในบริเวณนั้นให้ได้นานที่สุดซึ่งในเกมนี้ก็เช่นกันโดยผู้เล่นที่มีวิธีการจ่ายบอลที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดเห็นจะเป็นสก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ที่ส่งบอลไปยังแดนคู่แข่งอยู่ตลอดเวลาที่ได้บอล ไม่ว่าจะเป็นการวางบอลสั้น กลาง ยาว และมีความแม่นยำดีเยี่ยมอีกด้วย ถือเป็นจุดสิ้นสุดยุป้ายบอลออกซ้ายขวา แตะบอลกลับหลังของแม็คเฟร็ดเลยทีเดียว
บอลมีทรงทั้งรุกและรับด้วยระบบ 4-2-2-2
เป็นเกมที่สามติดต่อกันที่แมนยูเล่นแผน 4-2-2-2 ซึ่งให้ปีกทั้งสองข้างหุบเข้ามาด้านในมากขึ้นและฟูลแบ็คทั้งสองข้างเติมเกมรุกสูงขึ้นด้วย ซึ่งในระบบนี้ประกอบกับการยืนตำแหน่งที่สูงขึ้นก็สามารถขับศักยภาพของแม็คเฟร็ดออกมาได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าบอลที่รวดเร็วมากขึ้นในแดนกลาง การซ้อนตำแหน่งของแม็คเฟร็ดที่ซ้อนฟูลแบ็ค หรือการมีตัวเลือกจ่ายบอลในแดนหน้าที่มากขึ้นเพราะมีกองหน้าถึงสองคนที่สลับลองมาเอาบอลตรงกลาง การเล่นในระบบนี้ช่วยเสริมจุดอ่อนในเกมรับของทั้งดิโอโก ดาโลต์และอเล็กซ์ เตลเลสที่มีทั้งแม็คโทมิเนย์ และเฟร็ดคอยซ้อนอีกทีหนึ่ง และการที่นักเตะทั้งทีมมีหน้าที่ที่ชัดเจนและไม่มากไม่น้อยเกินไปก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผีแดงเล่นได้มีทรงมากขึ้นทั้งรุกและรับ
เกือบไม่รอด ถ้าไม่ได้เด เกอา
แน่นอนว่าดีนสมิธวางแผนมาได้อย่างดีเยี่ยมเพื่อต่อกรกับยอดทีมเมืองแมนเชสเตอร์ เพราะตลอดเกมการแข่งขันนอริชมีโอกาสทำประตูมากถึง 11 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง และจะแจ้งมากๆถึง 3 ครั้งด้วยกันแต่ผู้รักษาประตูระดับโลกอย่างดาบิดเดเกอาก็สามารถปัดป้องไว้ได้ทั้งหมดชนิดที่ว่าแฟนบอลเจ้าบ้านที่อยู่หลังประตูแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากลูกโหม่งของโอชานคาบัคที่โหม่งลูกเปิดจากทางกราบซ้ายย้อนกลับไปทางเสาแรก ผู้รักษาประตูชาวสเปนก็สามารถสปริงขาสุดแรงยืดแขนสุดเหยียดมาปัดบอลที่กำลังจะเสียบโคนเสาออกไปได้
มีการแข่งขันในทีมเกือบครบทุกตำแหน่ง เหลือแค่คู่กองกลาง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถือเป็นทีมที่มีขุมกำลังที่เต็มไปด้วยผู้เล่นมากความสามารถและมีพรสวรรค์อยู่เต็มทีมและครบแทบทุกตำแหน่งจนสามารถแบ่งออกเป็นสองทีมได้ด้วยซ้ำไป โดยเราจะเห็นได้จากเกมกลางสัปดาห์ในศึกยูเฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับยังบอยส์ที่ผีแดงของราล์ฟรังนิกสามารถเปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงได้ทั้ง 11 คนจากเกมพรีเมียร์ลีกรวมถึงเปลี่ยนผู้รักษาประตูระหว่างเกมการแข่งขันด้วยซ้ำไป โดยในตำแหน่งผู้รักษาประตูแมนยูก็มีทั้งดาบิด เดเกอา, ดีน เฮนเดอร์สัน, และทอม ฮีตัน แต่ในแดนกลางนั้น นอกจากแม็คโทมิเนย์และเฟร็ดแล้วก็จะมีเนมานย่า มาติชเท่านั้นที่เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับได้แต่ไม่สามารถไล่บีบคู่แข่งตลอดทั้งเกมได้ และดอนนี่ ฟาน เดอ บีคที่อาจจะทำหน้าที่เดียวกันนี้ได้จากการที่ราล์ฟได้ส่งลงมาแทนบรูโน่ แฟร์นันดส์ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายของเกม นั้นหมายความว่าหาก สก็อตต์และเฟร็ดลงสนามไม่ได้จากอาการบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอาจจะลำบากทันที เราจะต้องมาดูกันว่าในตลาดซื้อขายนักเตะฤดูหนาวราล์ฟรังนิกจะได้จับจ่ายใช้สอยนักเตะในตำแหน่งนี้บ้างหรือเปล่าเมื่อผีแดงเองก็มีขายอยู่กลายๆกับกองกลางของทีมอาร์เบไลป์ซิกอย่าง อาร์มาดู ไฮดาร่าถึงแม้รังนิกเองจะบอกว่ายังเร็วไปที่จะบอกว่าเขาจะซื้อนักเตะมาเพิ่มไหมในตลาดหนาวนี้ก็ตาม

13P
แชร์เนื้อหา