โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตำนาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับการตอบโต้เสียงวิจารณ์ด้วยผลงานในสนาม

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นคนที่ถูกตั้งคำถามเสมอ ตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะจนกระทั่งมาเป็นผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยบุคลิกที่ดู นุ่มนิ่มและบางครั้งก็ดูโลกสวยเกินไป จึงทำให้เขามักถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนที่ดูมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นกว่า แต่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ไม่ได้แยแสต่อเสียงวิจารณ์ที่ไร้ประโยชน์เหล่านั้น กลับกัน โอเล่ กุนนาส์ โซลชา เก็บเสียงวิจารณ์เหล่านั้นเป็นแรงผลักดันให้เขามุ่งมั่นทำผลงาน แม้ว่าหนทางการพาทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้กลับมายิ่งใหญ่นั้นจะเต็มไปด้วยความยากลำบาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังยึดมั่นในแผนงานระยะยาวและนับวันเขายิ่งทำให้เสียงวิจารณ์นั้นค่อยๆเงียบลงไปได้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 1996

ย้อนกลับไปในปี 1996 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องการหาศูนย์หน้าคนใหม่

ในฤดูกาล 1995/96 ทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในลีก แต่กลับไม่มีนักเตะของทีมคนใดเลยที่ยิงได้เกิน 15 ประตูในพรีเมียร์ลีก คนที่ยิงได้มากที่สุด ก็คือ เอริค คันโตน่า ยิงได้ 14 ประตู อยู่ที่ 9 ในอันดับดาวซัลโว ขณะที่ทีมอันดับ 3 และแชมป์เก่าฤดูกาลก่อนหน้าอย่าง แบล็กเบิร์น โรเวอร์ มีสุดยอดกองหน้าอย่าง อลัน เชียรเรอร์ ที่ซัดไป 31 ประตู ทิ้งคู่แข่งดาวซัลโวแบบไม่เห็นฝุ่น

กองหน้าของทีม อย่าง เอริค คันโตน่า มาร์ค ฮิวจ์ส และไบรอัน แมคแคลร์ ล้วนเป็นกองหน้าระดับชั้นนำ แต่อัตราการยิงประตูถือว่า ยังไม่ใช่อันดับต้นๆของลีก โดยทั้ง 3 คน มีอัตราการยิงประตูรวมกันอยู่ที่ 0.31 ประตูเท่านั้น

และเป้าหมายแรก ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็คือ อลัน เชียร์เรอร์

เด็กหนุ่มโนเนม จาก แสกนดิเนเวีย สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เป้าหมายหลักในการเสริมทัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือ อลัน เชียร์เรอร์ อย่างเปิดเผย ก่อนหน้านั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เคยตามจีบ อลัน เชียร์เรอร์ สมัยยังเป็นดาวรุ่งอยู่ที่เซาแธมป์ตัน

ในปี 1996 คือปีทองของ อลัน เชียร์เรอร์ เขาคือ ดาวซัลโวทั้งพรีเมียร์ลีกและยูโร 1996

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีปัญหาเรื่องค่าตัวและพร้อมทุบสถิติค่าตัว โดย อลัน เชียร์เรอร์ ได้ไปพูดคุยถึงบ้านของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันมาแล้ว แต่ทว่า สุดท้าย อลัน เชียร์เรอร์ปฏิเสธแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเลือกไปล่าตาข่ายให้กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ดด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกในขณะนั้น 15 ล้านปอนด์ ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการลงเล่นให้ทีมบ้านเกิดของเขามากกว่า

นัดเปิดฤดูกาลใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องหาตัวเลือกใหม่ทันที

แม้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพึ่งได้กองหน้าอย่าง แอนดี้ โคล และยังมี เอริค คันโตน่า ขณะที่ก็มีดาวรุ่งอย่าง พอล สโคลส์ ที่เพิ่งทะลุขึ้นมา ก็สามารถเล่นกองหน้าได้ แต่นั่นยังไม่พอสำหรับการลุ้นแชมป์ในหลายๆรายการ กับแผนการเล่นที่ใช้กองหน้าอย่างน้อย 2 คนในแต่ละนัด

และในซัมเมอร์ปี 1996 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจ่ายเงิน 1.5 ล้านปอนด์ เพื่อนำตัว โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ค้าแข้งกับ โมลด์ ดิวิชั่น 1 นอร์เวย์ กับสถิติการยิง 31 ประตูใน 42 นัด หากดูจากสถิติ ไอหนุ่มโนเนม มีอัตราการทำประตูที่ใช้ได้ แต่ กูรูหรือแม้แต่แฟนบอล ต้องเกาหัว ว่าไอหมอนี่คือใครกัน เนื่องจากมาจากลีกหรือประเทศที่ไม่ได้โด่งดังด้านฟุตบอล แต่กลับนึกถึงปลาแซลมอนมากกว่า

อีกทั้ง ในปี 1995 นักเตะต่างชาติก็ยังไม่ได้มาค้าแข้งเยอะเหมือนปัจจุบัน โดยเฉพาะ นักเตะจากนอร์เวย์ นี่ยิ่งน้อย โดยมีนักเตะนอร์วีเจี้ยนเพียง 10 คนเท่านั้นที่ค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีกในขณะนั้น แฟนบอลก็ต้องหัวเสียเป็นธรรมดา จากตอนแรกทีมจะได้ อลัน เชียร์เรอร์ ดาวซัลโวยูโร 1996 แต่กลายเป็นไอหนุ่มโนเนมจากแสกนดิเนเวีย ชื่อ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ใช้เวลาไม่นาน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็สามารถตอบโต้เสียงวิจารณ์ทันที ว่า เขาสามารถเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ และเล่นให้กับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เพียงนัดที่ 3 ของฤดูกาล 1996/97 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 60 และหลังจากนั้น 6 นาทีก็สามารถยิงประตูเดบิวส์ของเขาได้ทันที ในเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ แบล็กเบิร์น โรเวอร์

โดยจบฤดูกาลนั้น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่ต้องพูดเยอะ เขายิงได้ 18 ประตูในพรีเมียร์ลีก และเป็นดาวซัลโวของทีมในทุกรายการ และพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครอง

ถึงกระนั้น สถานะของเขายังก็ไม่ใช่ตัวจริง ในฤดูกาลต่อมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังเสริมกองหน้าเข้ามาเพิ่มอย่าง ดไวท์ ยอร์คและ เท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮม กอปรกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ฟอร์มตก จึงต้องกลายไปเป็นตัวสำรองอดทนบ่อยครั้ง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ ตำนาน ซูเปอร์ซับ

และในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก ปี 1999 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็เป็นสำรองตามเคย ในเกมนัดที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของนักฟุตบอลคนหนึ่ง ในนาที่ 81 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถูกส่งมาเป็นตัวสำรอง และหลังจากนั้นก็คือ ตำนานที่นำมาคุยซ้ำอย่างไม่รู้เบื่อ

ในปี 2007 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แขวนสตั้ด ปิดฉาก 11 ปี ที่ค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงไปได้ 126 ประตู จากการเล่น 366 นัด โดยยิงประตูในฐานะตัวสำรองถึง 29 ประตู จากการลงเล่นเป็นตัวสำรอง 150 นัด นี้ ยืนยันฉายา ซูเปอร์ซับ ได้เป็นอย่างดี

กลับมาในฐานะผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยโปรไฟล์ที่แฟนบอลต้องร้อง อิหยังวะ

วันที่ 19 ธันวาคม 2018 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่งตั้งให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา รักษาการณ์ผู้จัดการทีม แทนที่ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งผิดคาดกับชื่อที่เหล่าแฟนบอลตั้งหวังไว้ อย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ หรือ ซีเนอดีน ซีดาน มากกว่า โดยชื่อเสียงและประสบการณ์ ก็ไม่อาจสามารถสู้ หลุยส์ ฟาน กัล หรือแม้กระทั่ง เดวิด มอยส์ ได้ด้วยซ้ำ

ก่อนจะมารับตำแหน่งรักษาการณ์ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่เคยได้ทำทีมใหญ่มาก่อนเลย โดยเป็นผู้จัดการทีมให้กับ โมลด์ สโมสรในลีกบ้านเกิดของเขา และสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัย พร้อมทั้งแชมป์ นอร์เวย์ คัพ อีก 1 สมัยแต่นั่นก็เป็นเพียงลีกนอร์เวย์ ยังไม่ได้พิสูจน์ฝีมือในระดับสูงเลย ซึ่งนั่นเหมือนกับตอนย้ายจากลีก นอร์เวย์มาค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมัยที่เป็นนักเตะเป้ะ

ต้นปี 2014 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ย้ายไปคุมทีม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทีมในศึกพรีเมียร์ลีกในเวลานั้น พร้อมกับภารกิจอันหนักอึ้ง คือ การเข้ามากลางฤดูกาลและต้องพาให้ทีมรอดพ้นจากการตกชั้นให้ได้ ทว่าสุดท้ายไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเหมือนปี 1999 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ตกชั้นด้วยการเป็นทีมบ๊วยของตาราง โดย โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ฝากผลงานชนะ 3 เสมอ 3 และแพ้ไปถึง 12 นัด

ในวันแรกที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ การกอบกู้ปีศาจแดง

ผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในตอนนั้น มีนักเตะดาวดังมากมาย แต่ไม่มีดีเอ็นเอ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

นักเตะหลายคนนั้นไม่ใช่ด้วยสไตล์การเล่น และสุดท้ายทำผลงานได้น่าผิดหวังไม่สมกับค่าเหนื่อยสูงเป็นอันดับต้นๆของพรีเมียร์ลีก ส่วนในห้องแต่งตัว สปิริตในทีมก็สูญสิ้นในยุค โชเซ่ มูรินโญ่ ที่มีปัญหากับนักเตะอย่างรุนแรง

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถูกบอร์ดแต่งตั้ง เข้ามาเพื่อกอบกู้ความเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากทีมได้หลงทางกับผู้จัดการทีมระดับเวิลด์คลาสหลายคน แต่กลับไม่อาจพาทีมกลับมาได้ การแต่งตั้งโอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นการตอกย้ำว่า บอร์ดบริหาร เริ่มไม่ไว้ใจโค้ชโปรไฟล์ดีแต่เปลี่ยนมาลองใช้ลูกหม้อ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เพื่อวางรากฐานระยะยาว

สิ่งแรกที่เขาทำ คือ การจัดการห้องแต่งตัว เขาพยายามทำให้นักเตะส่วนใหญ่มีความสุขและปกป้องนักเตะอยู่เสมอ แตกต่างจาก โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ทำตรงกันข้าม ส่วนนักเตะที่ไม่มีใจหรือคนที่ไม่คิดว่าจะใช้อยู่แล้ว โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็เลือกที่จะไม่ใช้งานเลย

ต่อมา คือการเปลี่ยนสไตล์การเล่นให้เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ ต้องเล่นเกมรุก บุกเพื่อประตูทุกเมื่อ ใช้ความรวดเร็วในการโจมตี และอาศัยจังหวะการโต้กลับ

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สามารถปลุกใจให้นักเตะกลับมาเล่นด้วยความมุ่งมั่นและฮึกเหิมได้ทันที พาทีม ชนะ 10 เสมอ 1 ใน 11 เกมแรก ก่อนที่เขาจะพาทีม พลิกเอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หลังจากแพ้ไปก็ในนัดแรก 2-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ผ่านเข้ารอบต่อไปได้แบบเหลือเชื่อ

จนในที่สุด ปีศาจแดง จึงทำการแต่งตั้งให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นกุนซือแบบถาวร ในวันที่ 28 มีนาคม 2019 แต่แล้ว พอได้สัญญาปุ๊บ ก็เหมือนตกเหวทันที เมื่อหลังจากนั้น ผลงานของทีม ก็กลับย่ำแย่ลงอย่างน่าใจหาย ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบฤดูกาล 2018/19 ด้วยอันดับ 6

มีเสียงวิจารณ์ต่อโอเล่ กุนนาร์ โซลชา มากมาย ว่าเป็นโค้ชที่มือไม่ถึง มองโลกในแง่ดีเกินไป นุ่มนิ่ม และเปลี่ยนตัวได้แย่ ขณะที่สื่อหรือแฟนบอลโจมตี โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ว่าเป็นมือใหม่หรือเหมือนโค้ชพละมากกว่า เสียงวิจารณ์ส่วนใหญ่มุ่งที่ผลลัพธ์ในสนาม แต่กลับเพิกเฉยต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นภายนอกสนาม อาทิ บรรยากาศห้องแต่งตัว สไตล์การเล่น ดีเอนเอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เริ่มค่อยๆกลับมาแล้ว

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา รับรู้ถึงเสียงวิจารณ์แต่เลือกที่จะโฟกัสเป้าหมายใหญ่ในระยะยาว ที่ต้องค่อยๆสร้างทีมไปทีละขั้น และเป้าหมายคือ การพาทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่อย่างที่ควรจะเป็น

หลังจากนั้นผ่านมา 2 ปี เสียงวิจารณ์เหล่านี้ค่อยๆหายไป กลายเป็นคำชม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาแล้ว

ในฤดูกาล 2019/20 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พาทีมตามเป้าหมาย จบอันดับที่ 3 และ พาทีมกลับไปโลดแล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกครั้ง ก็ยังไม่วายโดนแซะว่าเป็นเพราะ บรูโน่ เฟอร์นานเดซ แบกต่างหาก

ในฤดูกาล ปี 2020/21 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต่อยอดกำลังจะพาทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบอันดับที่ 2 เป็นครั้งแรกตั้งแต่ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน รีไทร์ที่ได้ไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ปีติด และถึงจะไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ทีมก็สามารถลดช่องว่างคะแนนระหว่างทีมแชมป์ได้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เริ่มโชว์ผลงานในสนามด้วยสไตล์การเล่นและสร้างสถิติที่น่าประทับใจ

การถล่ม เซาแธมป์ตัน 9-0 ตอกย้ำถึงการทำทีมโดยเน้นเล่นเกมรุก ไม่เน้นผลอย่างเดียว และได้สร้างสถิติยิงประตูในหนึ่งเกมของพรีเมียร์ลีก และเป็นครั้งที่ 2 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในประวัติศาตร์ที่ยิงได้ถึง 9 ลูก

ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก มีเพียง 2 นัดก่อนหน้านี้เท่านั้น ที่ยิงกันห่างเกิน 9 ประตู โดยหนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำลูกทีมถล่ม อิปสวิซ ทาวน์ 9-0 ในปี 1995

หลังจากหมดยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ใกล้เคียงกับการถล่มคู่แข่งเลยแม้แต่น้อย ด้วยสไตล์การเล่นเน้นครองบอลจนแฟนง่วง อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล และ เน้นผลการแข่งขันเป็นหลักอย่างโชเซ่ มูรินโญ่

อีกทั้ง สถิติการการ comeback หลังจากโดนนำไปก่อน ได้ตอกย้ำถึง mentality ไม่ยอมแพ้ถึงนาทีสุดท้าย ที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ติดตั้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงนับตั้งแต่ บรูโน่ เฟอร์นานเดซ เข้ามาสู่ในทีม ก็ดูเหมือนว่า จะแผ่รังสีไปให้เพื่อนร่วมทีมแล้วให้มีความมั่นใจและไม่ยอมแพ้อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับ

สถิติบ่งชี้ให้เห็นว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นจอม ‘Comeback’ อย่างแท้จริง โดย ณ ปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นทีมที่เก็บแต้มจากการโดนนำไปก่อนมากที่สุดในลีก โดยสร้างสถิติเก็บได้ 31 แต้ม และได้สร้างสถิติเป็นทีมที่เก็บแต้มมากที่สุดหลังจากโดนนำไปก่อนในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีก

สถิติอีกอย่างหนึ่ง คือ การไม่แพ้ในเกมเยือนเป็นจำนวนติดต่อกันถึง 25 นัด โดยหากนัดสุดท้ายที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน ถ้าไม่แพ้ออกมาจะทำสถิติไม่แพ้เกมเยือนตลอดทั้งฤดูกาล และจะขาดเพียง 1 นัด เพื่อเทียบสถิติสูงสุดตลอดกาลของอาร์เซนอลที่จำนวน 27 นัด

ไม่ว่า ผลบอล นัดชิงชนะเลิศ ยูโรป้า ลีก จะเป็นอย่างไร โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คือ กุนซือที่ใช่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในขณะนี้

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีโอกาสอันดีในการพาทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับไปคว้าแชมป์อีกครั้ง ในเกมที่จะพบทีม บียาร์รีล ในวันที่ 26 พ.ค. นี้

และไม่ว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะพาทีมคว้าแชมป์ได้หรือไม่ ผลงานในการสร้างทีมจากทีมที่ลุ้นแค่พื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลับเข้ามาใกล้เคียงกับทีมที่จะได้ลุ้นแชมป์แล้ว สไตล์การเล่นเอนเตอร์เทน บรรยากาศในทีมก็ยอดเยี่ยม บรรดาดาวรุ่งและแผนระยะยาวยังไปได้ดี และโอเล่ กุนนาร์ โซลชา นั้นได้ก็ตอบโต้เสียงวิจารณ์ได้อีกครั้งอย่างที่เขาได้เคยทำเมื่อครั้นเป็นนักเตะโนเนมจากแสกนดิเนเวีย

support

support

แชร์เนื้อหา