เจรจาครั้งนี้ ไม่มีนายหน้า: สัญญาฉบับใหม่ของ “เควิน เดอ บรอยน์” | TunGame

เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางตัวเทพของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทำการจรดปากกาต่อสัญญากับทีมต่อไปเป็นที่เรียบร้อยถึงปี 2025

สิ่งที่ทำให้ดีลนี้พิเศษไปกว่าดีลอื่นๆคือ สัญญาฉบับใหม่ที่มีมูลค่าราว 83 ล้านปอนด์ หรือคำนวณเป็นเงินไทยถึง 3.6 พันล้านบาท ฉบับนี้ ถูกเจรจา

โดยไม่ผ่านนายหน้า แต่เป็นตัวของ เควิน เดอ บรอยน์ ที่เป็นคนเจรจากับสโมสรด้วยตนเองทั้งหมด!

ทันเกม ได้รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจทั้งหมดเกี่ยวกับดีลนี้ ไว้ให้ติดตามกันที่นี้แล้ว

เดอ บรอยน์ ต้องการอะไรจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เดิมที สัญญาฉบับก่อนของ เดอ บรอยน์ มีอายุถึงปี 2023 (เหลืออีก 2 ปี) แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่นิ่งนอนใจที่จะรีบทำการขยายสัญญากับ

กองกลางคนสำคัญรายนี้ออกไป เพื่อจะอุ่นใจได้ว่า เดอ บรอยน์ จะอยู่กับทีมต่อไปนานกว่านั้น ซึ่งตัว เดอ บรอยน์ เองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรในส่วนนี้

เพราะตัวเขาเองก็รักและมีความสุขในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม อยู่แล้ว เขามีเพียงเงื่อนไขง่ายๆ เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังจะคงเป็นบ้านของเขา

ในอีก 4 ปีข้างหน้า นั้นคือสโมสรต้องมีเป้าหมายที่จะทำทุกอย่างเพื่อคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาครองให้ได้

ซึ่งหลังจากที่ตัวเขาได้พูดคุย ซิกี้ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการสโมสรของเรือใบสีฟ้าถึงแผนการดำเนินงาน การเสริมทัพต่างๆ ก็ทำให้ เดอ บรอยน์ มั่นใจได้ว่า

เขาและสโมสรยังมีเป้าหมายเดียวกันอยู่ จึงยอมเดินหน้าเจรจาสัญญาต่อไป

การจ้างนักวิเคราะห์เพื่อข้อมูลในการเจรจาและการตัดสินใจ

เควิน เดอ บรอยน์ เลือกที่จะไม่ว่าจ้างนายหน้าในการต่อรองครั้งนี้ แต่เขากลับทำการจ้างนักวิเคราะห์ข้อมูลแทน เพื่อจะนำข้อมูลและสถิติต่างๆ

มาสร้างความมั่นใจให้เขาในการเข้าไปต่อรองกับสโมสรด้วยตัวเองว่าทำไมเขาถึงเป็นนักเตะที่สำคัญที่สุดของทีมอยู่ และสมควรได้รับตัวเลข

ที่สมเกียรติกันกับความสำคัญของเขาในสัญญาฉบับใหม่

ข้อมูลต่างๆที่เขาได้จากนักวิเคราะห์นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มน้ำหนักในการต่อรองให้เขา แต่ข้อมูลเหล่านั้นยังเป็นสิ่งที่ทำให้ เดอ บรอยน์ มั่นใจได้ว่า

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จในระยะยาว และยังคงเป็นทีมที่เหมาะสมกับเขามากที่สุดด้วยเช่นกัน

ซึ่งหากไม่ต้องพึ่งข้อมูลจากนักวิเคราะห์ ก็พอจะรู้ได้อยู่แล้วว่า เควิน เดอ บรอยน์ นั้นสำคัญต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากแค่ไหน เห็นได้จากการที่

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือจอมโรเตชั่นของทีม ที่มักจะหมุนเวียนนักเตะเป็นว่าเล่น แต่มีเพียงนักเตะคนเดียวในแผงรุกที่หากไม่เจ็บไม่ป่วย เขาจะใช้งานตลอด

นั้นก็คือ เควิน เดอ บรอยน์ ศูนย์กลางในเกมรุกของทีม

และสำหรับตัว เดอ บรอยน์ เองที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ธรรมชาติที่ต้องการทีมที่รายล้อมไปด้วยผู้เล่นผู้เล่นคุณภาพอยู่รอบๆ เพื่อให้เขาได้เป็นจุดศูนย์กลาง

ในการสร้างเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้าระดับท๊อปมากมายก็ดูจะตอบโจทย์ดีอยู่แล้ว

ปัจจุบัน เควิน เดอ บรอยน์ นั้นก็มีอายุ 29 ปีแล้ว การตัดสินใจครั้งนี้จึงถือว่ามีความสำคัญต่อเขามากๆไม่ว่าจะเลือกจะอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อไป

หรือจะย้ายทีม เพราะถ้าหากเขาเลือกผิด เขาอาจจะพลาดโอกาสการคว้าแชมป์ที่เขาปรารถนาอย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ก็เป็นได้ ดังนั้น เดอ บรอยน์

จึงต้องการยอมจ่ายเงินจำนวนไม่น้อยเพื่อข้อมูลเหล่านี้ ที่จะทำให้เขามีความมั่นใจมากที่สุดก่อนตัดสินใจ

ความเด็ดเดี่ยวในการเลือกที่จะเจรจาดีลครั้งนี้เอง

นักกีฬาระดับท๊อปของโลกแทบทั้งหมดยอมที่จะจ่ายเงินจำนวนมหาศาลในแต่ละปีเพื่อว่าจ้างนายหน้า หรือเอเย่นต์ส่วนตัว เพื่อคอยเจรจาเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ

ให้ เหตุผลก็เพราะแค่หน้าที่ของนักกีฬาที่ต้องทำผลงานในสนามอย่างเดียวก็เหนื่อยและต้องใช้สมาธิมากๆอยู่แล้ว หากต้องคอยมากังวลเรื่องนอกสนามต่างๆเหล่านี้

อาจยิ่งทำให้เสียสมาธิและส่งผลต่อฟอร์มการเล่นได้

อีกเหตุผลสำคัญคือการเจรจาสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผู้เจรจาต้องมีวาทศิลป์เป็นเลิศเพื่อต่อรองเงินมหาศาลเหล่านี้ ซึ่งน้อยคนนักที่จะมีความสามารถ

ในการเจรจาเหล่านี้ เป็นทักษะอย่างหนึ่งที่หาไม่ได้ง่ายๆ

ฉะนั้น การที่ เควิน เดอ บรอยน์ เลือกที่จะทำการเจรจาสัญญามูลค่ามหาศาลฉบับนี้ด้วยตัวเอง โดยมีเพียงคุณพ่อเป็นที่ปรึกษา, ทนายความ 2 คน ที่มีหน้าที่แค่

ตรวจสัญญาให้ และทีมนักวิเคราะห์ที่ส่งข้อมูลให้ ถือเป็นเรื่องที่จะพบเจอได้ยากมากๆในโลกกีฬาปัจจุบัน และต้องยอมรับเลยว่า เดอ บรอยน์ นั้นมีความเยือกเย็น

กล้าคิด กล้าคุย กล้าตัดสินใจจริงๆ และคงเป็นเรื่องยากมากๆที่นักกีฬาคนอื่นจะลอกเลียนแบบ

แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการแต่เป็นที่คาดกันว่า เควิน เดอ บรอยน์ จะได้รับค่าจ้างสูงถึงประมาณ 380,000 – 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

ไปเป็นเวลาอีก 4 ปี ทำให้เขาขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่มีค่าเหนื่อยสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แซงหน้า ดาบิด เด เฆอา ผู้รักษาประตูของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ที่รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ประมาณ 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

จากเรื่องราวทั้งหมด คงจะกล่าวได้ว่า เควิน เดอ บรอยน์ คือ “อัจฉิรยะตัวจริง” ทั้งในและนอกสนาม

support

support

แชร์เนื้อหา