หลังจากที่ลิเวอร์พูลแพ้ในบ้าน 4 นัดติดต่อกัน รอย คีน ตำนานมิดฟิลด์คนดังของพรีเมียร์ลีก ที่ปัจจุบันผันตัวเป็นนักวิจารณ์ของสกาย สปอร์ต ได้ออกมาสับว่า ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์เก่าที่แย่ โอเคฟอร์มในช่วงนี้ถือว่าดิ่งสุดๆ แต่มันเป็นเพราะหงส์แดงแย่จริงๆ หรือว่าโชคร้ายเพราะนักเตะประสบอาการบาดเจ็บยาวหลายคนหรือเป็นเพราะการป้องกันแชมป์พรีเมียร์มันก็ไม่ใช่งานที่ “ง่ายๆ”
พรีเมียร์ลีก เป็นลีกที่พิเศษ เราไม่มีทางเห็นทีมใดที่จะผูกขาดแชมป์นานๆ เกิน 3 ปีอย่างเช่นใน อิตาลี ทีมอย่างยูเวนตุส ที่เป็นแชมป์มา 9 ปีติด หรือในเยอรมันบาเยิร์น มิวนิค ก็ผูกปีแชมป์อยู่เรื่อยๆ หรือในฝรั่งเศส มีทีมอย่าง ลียง ที่เป็นเจ้าแห่งแชมป์ลีกเอิง อยู่บ่อยๆในอดีต
สิ่งนี้ต้องมีเหตุผลสิว่าทำไมกันถึงป้องกันแชมป์พรีเมียร์ ลีกยากกว่าลีกอื่นๆ
มีเพียง 3 ทีมเท่านั้นในรอบ 30 ปีที่ป้องกันแชมป์ได้
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็น 3 สโมสรเท่านั้นที่เคยป้องกันแชมป์ของตัวเองได้
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในยุคเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ถือว่าเป็นเจ้าแห่งเกาะอังกฤษอย่างแท้จริง นอกจากการได้แชมป์ลีก13 สมัยแล้ว ยังสามารถป้องกันแชมป์ได้หลายครั้ง และแมนยูฯสามารถป้องกันแชมป์ได้ถึง 6 ครั้ง ..
โดยครั้งแรกคือ ช่วง 1992-1994 ในยุคของการเข้ามาของ เอริค คันโตน่า
ครั้งที่2 คือ 1995-1997 ในยุค Class of 92
ครั้งที่3 และ 4 คือ 1998-2001 ในยุคทริปเปิลแชมป์และปาฏิหาริย์ที่ คัมป์ นู ปี 99
ครั้งที่5 และ 6 คือ 2006-2009 ในยุค 3 ประสาน โรนัลโด้ รูนี่ย์ เตเวซและมีกองหลังคู่หูอย่าง วิดิช และเฟอร์ดินานด์
เชลซี 1 ครั้งในช่วงฤดูกาล 2004-2006 ในยุค โชเซ่ มูรินโญ่ ที่พาทีมเชลซีได้แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรและสามารถป้องกันแชมป์ได้เลยในฤดูกาลต่อมาโดยสามารถทิ้งห่างแมนยูถึง 9 แต้มและไม่แพ้ใครเลยในบ้าน
แมนเชสเตอร์ซิตี้ 1 ครั้งในช่วง 2017-2019 ในยุคของ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ที่สร้างประวัติศาสตร์ได้ 100 แต้มและสถิติอีกมากมายเช่น ชนะมากที่สุดต่อฤดูกาล (32 นัด) ยิงมากที่สุดต่อฤดูกาล (106 ลูก) และชนะติดต่อกันมากที่สุด (18 นัด)
ทำไมป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก คือ งานหิน ของเหล่า ‘แชมป์เปี้ยน’
1. แรงจูงใจของนักเตะ
แรงจูงใจและความกระหายในชัยชนะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสิ่งนี้ยืนยันโดย เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ที่มีความกระหายในชัยชนะ ชนะ และชนะ คอยปลูกฝังลูกทีมให้ไม่เหลิงย้ำว่าเมื่อได้แชมป์แล้ว คุณต้องการแชมป์อีกเรื่อยๆ
2. คู่แข่งจับทางได้
ตัวอย่างที่ชัดเจนและเกิดขึ้นไม่นานนี้คือ เลสเตอร์และเชลซีในยุค อันโตนิโอ คอนเต้
เลสเตอร์ได้แชมป์จากการเล่น 4-4-2 และสวนกลับเร็วคู่หู ริยาด มาร์เรซ และ เจมี่ วาร์ดี้คู่แข่งในปีต่อมาก็แค่ปิดการเปิดบอลของ มาร์เรซ ก็ป้องกันได้อย่างง่ายดายและไม่นับว่าการเสีย กองเต้ ทำให้แผงกองกลางยวบทันที
ส่วนเชลซี ได้แชมป์อย่างมหัศจรรย์จากการเปลี่ยนแผนการเล่นช่วงกลางฤดูกาลเป็น 3-4-3 และแผนการเล่นนี้ช่วยให้เชลซีเป็นแชมป์อย่างไม่ต้องสงสัยเกมการเล่นไม่มีได้มีการซับซ้อนนั่นคือการ โอเวอร์โหลดวิงแบ็ค โดยใช้ อลอนโซ่และวิคเตอร์ โมเซส ในการสร้างเกมรุก ในฤดูกาลต่อมาทีมคู่แข่งรู้วิธิแก้อย่างง่ายดายก็แค่เล่นแผนหลัง 3 เหมือนเชลซีนี่แหละ
3. การเสริมทัพ
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา แชมป์ใหม่จะเสริมทัพเป็นจำนวนเงินมากกว่าแชมป์เก่ามีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในรอบ 10 ปีที่แชมป์ใหม่เสริมทัพน้อยกว่า นั่นคือปี 2010-2011 ในปีที่แมนยูได้แชมป์ไปครอง ซึ่งปีนั้นแชมป์เก่า คือ เชลซี
ฤดูกาลนี้แมนซิตี้ เสริมทัพไปเกือบ 200 ล้านปอนด์ ขณะที่ลิเวอร์พูลต้องประหยัดสุดๆโดยใช้เงินไปเพียง 82 ล้านปอนด์
5 อันดับแชมป์เก่ายอดแย่
เราจะใช้มาตรในการวัดโดยใช้คะแนนที่เปลี่ยนแปลง(%) ในฤดูกาลที่ได้แชมป์เทียบกับปีป้องกันแชมป์
5. เชลซี ปี 2017
คะแนนปีที่ได้แชมป์: 93 แต้ม
คะแนนปีที่ป้องกันแชมป์: 70 แต้ม
เปลี่ยนแปลง: -24.73%
จบอันดับ: 5
เหตุผล:ปีที่ได้แชมป์ คอนเต้ค้นพบแผน 3-4-3 และใช้จนจบฤดูกาล แต่ปีต่อมา คู่แข่งจับทางได้รวมถึงการกลับไปเล่นเกมยุโรปอีกครั้งและ ลูกทีมแบนคอนเต้เป็นเหตุผลที่ไม่สามารถป้องกันแชมป์ได้
4. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2013
คะแนนปีที่ได้แชมป์: 89 แต้ม
คะแนนปีที่ป้องกันแชมป์: 64 แต้ม
เปลี่ยนแปลง: -28.09%
จบอันดับ: 7
เหตุผล:การเปลี่ยนทั้งผู้จัดการทีมและทีมงานอย่างไม่ต้องสงสัยเนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ก็เป็นชุดที่ได้แชมป์จากปีเกษียณของ เซอร์ อเล็กซ์นั่นแหละ
3. แบล็กเบิร์นปี 1995
คะแนนปีที่ได้แชมป์: 89 แต้ม
คะแนนปีที่ป้องกันแชมป์: 61 แต้ม
เปลี่ยนแปลง: -31.46%
จบอันดับ: 7
เหตุผล: มีการเปลี่ยนจำนวนแข่งจาก 42 นัดเป็น 38 นัด แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลหลักแน่นอนถ้าดูจากพวกเขาจบที่อันดับ 7
2. เชลซี 2015
คะแนนปีที่ได้แชมป์: 87 แต้ม
คะแนนปีที่ป้องกันแชมป์: 50 แต้ม
เปลี่ยนแปลง: -42.53%
จบอันดับ: 10
เหตุผล: หลายคนว่า เล่นล้มโค้ชหรืออาการบาดเจ็บของ เอแด็ง อาซาร์?
1. เลสเตอร์
คะแนนปีที่ได้แชมป์: 81 แต้ม
คะแนนปีที่ป้องกันแชมป์: 44 แต้ม
เปลี่ยนแปลง: -45.68%
จบอันดับ: 12
เหตุผล:เลสเตอร์กลายเป็นทีมหนีตกชั้นอยู่ช่วงหนึ่ง โดยสาเหตุหลักๆ คือการย้ายทีมของเอ็นกอโร่ ก็องเต้ การที่ต้องไปเล่น ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ก็ส่งผลต่อสภาพทีม และคู่แข่งจับทางการเล่นได้
ลิเวอร์พูลจะเป็นแชมป์เก่าที่ ‘แย่’ อันดับที่เท่าไหร่หลังจบฤดูกาล
หากใช้มาตรการวัดเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ลิเวอร์พูลได้แชมป์ด้วยคะแนน 99 แต้ม ปัจจุบัน ลิเวอร์พูลมี 40 แต้มเหลืออีก 13 นัด มีคะแนนให้เก็บอีก 39 แต้ม โดยหากหงส์แดงเก็บได้หมดจะได้ 79 คะแนนเปลี่ยนแปลง: -20% ก็จะไม่อยู่ใน 5 อันดับแรกด้วยซ้ำ
แต่ถ้าใช้วิธีที่สมเหตุสมผลขึ้นมาหน่อยโดยเอาฟอร์มการเล่นปัจจุบันลิเวอร์พูล มีอัตราการชนะ 44-50% ก็จะเก็บได้อีกราวๆ 18-20 คะแนน ก็จะมีคะแนนรวม 60 คะแนน เปลี่ยนแปลง 40% ก็จะอยู่ในอันดับ3 ในอันดับแชมป์ยอดแย่
เท่าไหร่ล่ะลิเวอร์พูล ถึงแย่สุดในประวัติศาสตร์ หงส์แดงต้องย่ำแย่สุดๆและเก็บได้เพียง 13 แต้มในอีก 13 นัดก็จะกลายเป็นแชมป์เก่าที่แย่สุดในประวัติศาสตร์สมใจ รอย คีนเค้าล่ะ
มาดูกันว่าลิเวอร์พูล จะฝ่ามรสุมนี้ได้หรือไม่ โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องรีบปลุกใจลูกทีมเพื่อลุ้น ท็อป 4 ให้ได้ก่อน และลุ้นคว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ให้ได้
วิเคราะห์สถานการณ์ไล่ล่าตั๋ว 2 ใบสุดท้ายสำหรับเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า
แชมป์ใหม่หน้าไม่คุ้นจัง! แชมป์เก่าที่แย่!? หรือ เพราะการป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก นั้น‘ไม่ง่าย’ | TunGame
หลังจากที่ลิเวอร์พูลแพ้ในบ้าน 4 นัดติดต่อกัน รอย คีน ตำนานมิดฟิลด์คนดังของพรีเมียร์ลีก ที่ปัจจุบันผันตัวเป็นนักวิจารณ์ของสกาย สปอร์ต ได้ออกมาสับว่า ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์เก่าที่แย่ โอเคฟอร์มในช่วงนี้ถือว่าดิ่งสุดๆ แต่มันเป็นเพราะหงส์แดงแย่จริงๆ หรือว่าโชคร้ายเพราะนักเตะประสบอาการบาดเจ็บยาวหลายคนหรือเป็นเพราะการป้องกันแชมป์พรีเมียร์มันก็ไม่ใช่งานที่ “ง่ายๆ”
พรีเมียร์ลีก เป็นลีกที่พิเศษ เราไม่มีทางเห็นทีมใดที่จะผูกขาดแชมป์นานๆ เกิน 3 ปีอย่างเช่นใน อิตาลี ทีมอย่างยูเวนตุส ที่เป็นแชมป์มา 9 ปีติด หรือในเยอรมันบาเยิร์น มิวนิค ก็ผูกปีแชมป์อยู่เรื่อยๆ หรือในฝรั่งเศส มีทีมอย่าง ลียง ที่เป็นเจ้าแห่งแชมป์ลีกเอิง อยู่บ่อยๆในอดีต
สิ่งนี้ต้องมีเหตุผลสิว่าทำไมกันถึงป้องกันแชมป์พรีเมียร์ ลีกยากกว่าลีกอื่นๆ
มีเพียง 3 ทีมเท่านั้นในรอบ 30 ปีที่ป้องกันแชมป์ได้
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็น 3 สโมสรเท่านั้นที่เคยป้องกันแชมป์ของตัวเองได้
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในยุคเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ถือว่าเป็นเจ้าแห่งเกาะอังกฤษอย่างแท้จริง นอกจากการได้แชมป์ลีก13 สมัยแล้ว ยังสามารถป้องกันแชมป์ได้หลายครั้ง และแมนยูฯสามารถป้องกันแชมป์ได้ถึง 6 ครั้ง ..
โดยครั้งแรกคือ ช่วง 1992-1994 ในยุคของการเข้ามาของ เอริค คันโตน่า
ครั้งที่2 คือ 1995-1997 ในยุค Class of 92
ครั้งที่3 และ 4 คือ 1998-2001 ในยุคทริปเปิลแชมป์และปาฏิหาริย์ที่ คัมป์ นู ปี 99
ครั้งที่5 และ 6 คือ 2006-2009 ในยุค 3 ประสาน โรนัลโด้ รูนี่ย์ เตเวซและมีกองหลังคู่หูอย่าง วิดิช และเฟอร์ดินานด์
เชลซี 1 ครั้งในช่วงฤดูกาล 2004-2006 ในยุค โชเซ่ มูรินโญ่ ที่พาทีมเชลซีได้แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรและสามารถป้องกันแชมป์ได้เลยในฤดูกาลต่อมาโดยสามารถทิ้งห่างแมนยูถึง 9 แต้มและไม่แพ้ใครเลยในบ้าน
แมนเชสเตอร์ซิตี้ 1 ครั้งในช่วง 2017-2019 ในยุคของ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ที่สร้างประวัติศาสตร์ได้ 100 แต้มและสถิติอีกมากมายเช่น ชนะมากที่สุดต่อฤดูกาล (32 นัด) ยิงมากที่สุดต่อฤดูกาล (106 ลูก) และชนะติดต่อกันมากที่สุด (18 นัด)
ทำไมป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก คือ งานหิน ของเหล่า ‘แชมป์เปี้ยน’
1. แรงจูงใจของนักเตะ
แรงจูงใจและความกระหายในชัยชนะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสิ่งนี้ยืนยันโดย เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ที่มีความกระหายในชัยชนะ ชนะ และชนะ คอยปลูกฝังลูกทีมให้ไม่เหลิงย้ำว่าเมื่อได้แชมป์แล้ว คุณต้องการแชมป์อีกเรื่อยๆ
2. คู่แข่งจับทางได้
ตัวอย่างที่ชัดเจนและเกิดขึ้นไม่นานนี้คือ เลสเตอร์และเชลซีในยุค อันโตนิโอ คอนเต้
เลสเตอร์ได้แชมป์จากการเล่น 4-4-2 และสวนกลับเร็วคู่หู ริยาด มาร์เรซ และ เจมี่ วาร์ดี้คู่แข่งในปีต่อมาก็แค่ปิดการเปิดบอลของ มาร์เรซ ก็ป้องกันได้อย่างง่ายดายและไม่นับว่าการเสีย กองเต้ ทำให้แผงกองกลางยวบทันที
ส่วนเชลซี ได้แชมป์อย่างมหัศจรรย์จากการเปลี่ยนแผนการเล่นช่วงกลางฤดูกาลเป็น 3-4-3 และแผนการเล่นนี้ช่วยให้เชลซีเป็นแชมป์อย่างไม่ต้องสงสัยเกมการเล่นไม่มีได้มีการซับซ้อนนั่นคือการ โอเวอร์โหลดวิงแบ็ค โดยใช้ อลอนโซ่และวิคเตอร์ โมเซส ในการสร้างเกมรุก ในฤดูกาลต่อมาทีมคู่แข่งรู้วิธิแก้อย่างง่ายดายก็แค่เล่นแผนหลัง 3 เหมือนเชลซีนี่แหละ
3. การเสริมทัพ
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา แชมป์ใหม่จะเสริมทัพเป็นจำนวนเงินมากกว่าแชมป์เก่ามีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในรอบ 10 ปีที่แชมป์ใหม่เสริมทัพน้อยกว่า นั่นคือปี 2010-2011 ในปีที่แมนยูได้แชมป์ไปครอง ซึ่งปีนั้นแชมป์เก่า คือ เชลซี
ฤดูกาลนี้แมนซิตี้ เสริมทัพไปเกือบ 200 ล้านปอนด์ ขณะที่ลิเวอร์พูลต้องประหยัดสุดๆโดยใช้เงินไปเพียง 82 ล้านปอนด์
5 อันดับแชมป์เก่ายอดแย่
เราจะใช้มาตรในการวัดโดยใช้คะแนนที่เปลี่ยนแปลง(%) ในฤดูกาลที่ได้แชมป์เทียบกับปีป้องกันแชมป์
5. เชลซี ปี 2017
คะแนนปีที่ได้แชมป์: 93 แต้ม
คะแนนปีที่ป้องกันแชมป์: 70 แต้ม
เปลี่ยนแปลง: -24.73%
จบอันดับ: 5
เหตุผล:ปีที่ได้แชมป์ คอนเต้ค้นพบแผน 3-4-3 และใช้จนจบฤดูกาล แต่ปีต่อมา คู่แข่งจับทางได้รวมถึงการกลับไปเล่นเกมยุโรปอีกครั้งและ ลูกทีมแบนคอนเต้เป็นเหตุผลที่ไม่สามารถป้องกันแชมป์ได้
4. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2013
คะแนนปีที่ได้แชมป์: 89 แต้ม
คะแนนปีที่ป้องกันแชมป์: 64 แต้ม
เปลี่ยนแปลง: -28.09%
จบอันดับ: 7
เหตุผล:การเปลี่ยนทั้งผู้จัดการทีมและทีมงานอย่างไม่ต้องสงสัยเนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ก็เป็นชุดที่ได้แชมป์จากปีเกษียณของ เซอร์ อเล็กซ์นั่นแหละ
3. แบล็กเบิร์นปี 1995
คะแนนปีที่ได้แชมป์: 89 แต้ม
คะแนนปีที่ป้องกันแชมป์: 61 แต้ม
เปลี่ยนแปลง: -31.46%
จบอันดับ: 7
เหตุผล: มีการเปลี่ยนจำนวนแข่งจาก 42 นัดเป็น 38 นัด แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลหลักแน่นอนถ้าดูจากพวกเขาจบที่อันดับ 7
2. เชลซี 2015
คะแนนปีที่ได้แชมป์: 87 แต้ม
คะแนนปีที่ป้องกันแชมป์: 50 แต้ม
เปลี่ยนแปลง: -42.53%
จบอันดับ: 10
เหตุผล: หลายคนว่า เล่นล้มโค้ชหรืออาการบาดเจ็บของ เอแด็ง อาซาร์?
1. เลสเตอร์
คะแนนปีที่ได้แชมป์: 81 แต้ม
คะแนนปีที่ป้องกันแชมป์: 44 แต้ม
เปลี่ยนแปลง: -45.68%
จบอันดับ: 12
เหตุผล:เลสเตอร์กลายเป็นทีมหนีตกชั้นอยู่ช่วงหนึ่ง โดยสาเหตุหลักๆ คือการย้ายทีมของเอ็นกอโร่ ก็องเต้ การที่ต้องไปเล่น ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ก็ส่งผลต่อสภาพทีม และคู่แข่งจับทางการเล่นได้
ลิเวอร์พูลจะเป็นแชมป์เก่าที่ ‘แย่’ อันดับที่เท่าไหร่หลังจบฤดูกาล
หากใช้มาตรการวัดเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ลิเวอร์พูลได้แชมป์ด้วยคะแนน 99 แต้ม ปัจจุบัน ลิเวอร์พูลมี 40 แต้มเหลืออีก 13 นัด มีคะแนนให้เก็บอีก 39 แต้ม โดยหากหงส์แดงเก็บได้หมดจะได้ 79 คะแนนเปลี่ยนแปลง: -20% ก็จะไม่อยู่ใน 5 อันดับแรกด้วยซ้ำ
แต่ถ้าใช้วิธีที่สมเหตุสมผลขึ้นมาหน่อยโดยเอาฟอร์มการเล่นปัจจุบันลิเวอร์พูล มีอัตราการชนะ 44-50% ก็จะเก็บได้อีกราวๆ 18-20 คะแนน ก็จะมีคะแนนรวม 60 คะแนน เปลี่ยนแปลง 40% ก็จะอยู่ในอันดับ3 ในอันดับแชมป์ยอดแย่
เท่าไหร่ล่ะลิเวอร์พูล ถึงแย่สุดในประวัติศาสตร์ หงส์แดงต้องย่ำแย่สุดๆและเก็บได้เพียง 13 แต้มในอีก 13 นัดก็จะกลายเป็นแชมป์เก่าที่แย่สุดในประวัติศาสตร์สมใจ รอย คีนเค้าล่ะ
มาดูกันว่าลิเวอร์พูล จะฝ่ามรสุมนี้ได้หรือไม่ โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องรีบปลุกใจลูกทีมเพื่อลุ้น ท็อป 4 ให้ได้ก่อน และลุ้นคว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ให้ได้
วิเคราะห์สถานการณ์ไล่ล่าตั๋ว 2 ใบสุดท้ายสำหรับเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า
support
แชร์เนื้อหา
FOLLOW US
POPULAR
ราฟาแอล วาราน มาแล้ว แชมป์ มาได้หรือยัง? | TunGame
อ่านต่อ »จากนักเตะติดสุราจนถึงผู้เล่นระดับตำนาน … เปิดอดีต 6 แข้ง เบอร์ 10 ของอาร์เซน่อล | TunGame
อ่านต่อ »สุดดราม่า! บทวิเคราะห์หลังเกม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | TunGame
อ่านต่อ »ทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำครึ่งฤดูกาลแรก | TunGame
อ่านต่อ »LATEST POST
พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝ่า 2 เดือนอำมะหิตแต่จบด้วย แชมป์ | TunGame
อ่านต่อ »บทสัมภาษณ์แฟนปีศาจแดง | TunGame
อ่านต่อ »ถึงเวลาแล้วที่เชลซีต้องแยกทางกับเมสัน เมาท์ | TunGame
อ่านต่อ »ใครจะมาคุมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในฤดูกาลหน้า? | TunGame
อ่านต่อ »TOPICS
News Update
Commentary
Documentary
Match Analysis
RELATED POST
พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝ่า 2 เดือนอำมะหิตแต่จบด้วย แชมป์ | TunGame
บทสัมภาษณ์แฟนปีศาจแดง | TunGame
ถึงเวลาแล้วที่เชลซีต้องแยกทางกับเมสัน เมาท์ | TunGame
ใครจะมาคุมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในฤดูกาลหน้า? | TunGame