วิเคราะห์ผลงานนอกสนามของแมนยู | TunGame

เป็นการยืนยันแล้วว่าในฤดูกาล 2021/2022 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นฤดูกาลที่เก็บคะแนนในลีกได้น้อยที่สุดตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมาเป็น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และอดได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลถัดไปอีกด้วย นับว่าเป็นผลงานในสนามที่แย่ที่สุดในนับตั้งแต่ยุคเดวิด มอยส์ (ฤดูกาล 2013/2014)

กว่า 8 ปีแห่งความว่างเปล่าอย่างแท้จริง เหมือน แมนฯ ยูไนเต็ดวนกลับมาอยู่ในจุดที่ เซอร์ อเล็กซ์ วางมือออกไป แม้ว่าในช่วงระหว่าง 8 ปีนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงทีมมากมาย บรรดาเหล่าผู้เล่นชื่อดังต่างเข้ามาและเวียนออกไปไม่ขาดสาย ได้แชมป์ระหว่างทาง ผลงานในลีคดีขึ้น แต่กลับมาในฤดูกาลนี้ทุกอย่างเหมือนกลับไปสู่ยุคที่ตกต่ำที่สุดอีกครั้ง

ทว่าเรามักได้ยินข่าวเสมอว่า สามารถสร้างรายได้ได้ดีอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับผลงานในสนาม วันนี้เราจะลองมาสืบค้นกันว่า “ผลงานนอกสนาม มันดีจริงๆ หรือแค่จกตากันแน่”

ผลประกอบการนอกสนามของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

หากเราดูผลประกอบการของบริษัทใดในโลก สิ่งที่บ่งบอกได้ชัดเจนที่สุดก็คือการรายงานงบดุลประจำปี (Balance Sheet) ซึ่งเริ่มนับวันที่ 30 มิถุนายนย้อนหลังไป 1 ปี (ยกตัวอย่างเช่น งบการเงินของปี 2021 จะเริ่มนับจากวันที่ 30 มิถุนายน 2021 – วันที่ 1 กรกฎาคม 2020)นั่นก็หมายความว่างบการเงินแต่ละปีคือผลประกอบการในแต่ละฤดูกาลนั่นเอง

ขอเริ่มกันที่รายได้ จะสังเกตุได้ว่ารายได้ส่วนใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาจากตัวแบรนด์ของสโมสรเอง (Commercial revenue)  รายได้ส่วนนี้นับรวมรายได้จากสปอนเซอร์และการขายสินค้าต่างๆ ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้พาทเนอร์กับแบรนด์ดังทั่วโลกในแทบจะทุกอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์, ผลิตภัณฑ์กีฬา, สายการบิน, เครื่องดื่มแอลกอฮอล, รถยนต์, สถานบันเทิง, โรงแรม, สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องน้ำ รวมไปถึงสินทรัพย์ดิจิตอลอีกด้วย ทั้งนี้ก็เป็นผลพวงมาจากการที่ทีมปีศาจแดงนั้นมีผู้ติดตามในSocial Media สูงมากติดอันดับโลก

โดยมีผู้ติดตามรวมจากทุกช่องทางมากกว่า 176.1 ล้านคนจากทั่วโลก ในปี 2021 ถ้านับแค่เฉพาะ Facebook เพียงอย่างเดียว แมนฯ ยูไนเต็ด มีผู้ติดตามถึง 73.2 ล้านคน (75 ล้านคนในปัจจุบัน) ซึ่งมากกว่าทุกสโมสรกีฬาในทุกประเภทกีฬารวมกัน และยังมีผู้ติดตามมากที่สุดถ้าเทียบกับทุกสโมสรในอังกฤษอีกด้วย นี่ยังไม่ได้นับรวมการเซ็นต์สัญญาซุปตาอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผู้ที่มียอด Follower ใน Instragram มากที่สุดในโลกเข้ามาร่วมทีมในปีนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าตัวเลขผู้ติดตามอย่างมหาศาลจะดึงดูดแบรนด์ต่างๆให้เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ได้มากมาย อย่างไรก็ตามรายได้อีกสองส่วนนั้นดูจะไม่ค่อยคงที่เมื่อเทียบกับรายได้จากตัวแบรนด์ของสโมสร

รายได้ส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด (Broadcasting Revenue)

รายได้ในส่วนนี้จะคิดจากจำนวนนัดที่ลงเตะในแต่ละรายการ ซึ่งสัดส่วนรายได้จะมาจาก Premier League ซะเป็นส่วนใหญ่ รายได้ที่น้อยลงหรือไม่เท่ากันนั้น มาจากการได้เตะในถ้วยอื่นน้อยนั่นเอง พูดอีกนัยหนึ่งคือ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานในสนามดีเท่าไร ได้เข้ารอบลึกๆในแต่ละถ้วยไหม ก็จะส่งผลต่อรายได้ในส่วนนี้

รายได้จากตั๋วเข้าชม (Matchday Revenue)

รายได้ส่วนนี้จะคิดจากการขายตั๋ว ซึ่งงบดุลของปี 2021 จะเห็นได้ว่ารายได้ในส่วนนี้ค่อนข้างถดถอยสืบเนื่องมาจาก COVID-19 ที่ผู้ชมไม่สามารถเข้ามาในสนามได้

รายจ่าย 4 ส่วน

1. ผลประโยชน์ของลูกจ้าง (Employee Benefit Expenses) นับรวมถึงเงินเดือน โบนัส และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของนักเตะและสตาฟอื่นๆ
2. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (Other Operating Expenses) คือใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆของสโมสร เช่น ค่าทำความสะอาด, ของกิน, รักษาความปลอดภัยในสนาม, ค่าเดินทาง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายคงที่ต่างๆ เช่น ค่าจัดการสินทรัพย์, ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์, ค่าซ่อมบำรุง
3. ค่าเสื่อม (Depreciation and Impairment)
4. ค่าตัดจำหน่าย (Amortization) ในส่วนนี้จะคิดสัญญาของนักเตะและสตาฟตามมูลค่าสัญญา (คิดปีต่อปี) ส่วนที่เพิ่มเติมหรือลดลงเป็นผลมาจากการเซ็นต์สัญญานักเตะใหม่เข้ามาหรือนักเตะถูกขายออกไป ถ้าหากนักเตะต่อสัญญา สัญญาใหม่จะถูกคิดเมื่อสัญญาเก่าหมดไปแล้ว

ทั้งนี้หากนับรวมรายได้จากการขายนักเตะ (Profit on disposal of intangible assets) จะสังเกตได้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นมีผลประกอบการค่อนข้างดีมาก มีผลประกอบการเป็นกำไรแทบทุกปี ยกเว้นปีที่มี COVID-19 ระบาด ซึ่งกระทบต่อรายได้จากการเข้าชมการแข่งขัน

ผลงานที่ในสนามที่กระทบนอกสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกนำเข้า New York Stock Exchange ในปี 2021 โดยเริ่มเทรดกันที่ราคา $14 ทั้งที่ผลประกอบการค่อนข้างดี แบรนด์ติดอันดับสโมสรกีฬาที่ดีที่สุดในโลก ดึงดูดสปอนเซอร์ นำเม็ดเงินเข้าสโมสรได้อย่างมหาศาล แต่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบันกลับไม่ไปไหนเลยเมื่อเทียบกับตอนที่เข้าตลาด มันอาจจะบอกอย่างมีนัยสำคัญก็ได้ว่าผลงานในสนามของ แมนฯยูไนเต็ด (ซึ่งนำมาสู่รายได้จากการถ่ายทอดสด) ไม่กระเตื้องขึ้นเลยหลังจากผ่านไปร่วม 10 ปี

ราคาหุ้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้น All time high ในช่วงสิงหาคม 2018 มันคือช่วงที่ทีมปีศาจแดงเพิ่งคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปาลีก และแฟนบอลก็คาดหวังกับฤดูกาลใหม่ที่ได้กลับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โมเม้นตั้มที่กำลังดีจากตอนนั้น ทำไมมันกลับรูดร่วงเหมือนที่ผ่านมา10 ปี สโมสรไม่เคยไปไหนเลย

ทั้งนี้ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในวิกฤตศรัทธาจากแฟนบอลทีมปีศาจแดงก็เป็นได้ สังเกตได้จากการที่ทีมอื่น ๆใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เริ่มสร้างฐานแฟนบอลที่ขยายไปทั่วโลกอีกด้วย แล้วอะไรที่จะเป็นตัวดึงดูดให้ผู้ชมใหม่ๆ (New user) ผันตัวเข้ามาเป็นสาวกของทีมนั้นๆ ถ้าไม่ใช่ผลงานในสนาม รายได้หลักของสโมสรที่หากินจากสปอนเซอร์รายใหญ่ก็มีโอกาสได้เงินน้อยลง ด้วยเหตุผลฐานแฟนบอลที่(อาจจะ)ลดลงในอนาคต

อย่างไรก็ตามคนที่ตามเชียร์กันมานานคงไม่หนีหายไปอย่างแน่นอน

เพราะ Once Reds, Always Reds

สวัสดีครับ

ตารางการแข่งขัน ตารางผลบอล

เต็งแชมป์ EPL