เป็นที่แน่นอนแล้วว่าทีมยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีอย่าง “ยูเวนตุส” จะจบฤดูกาล 2021/2022 แบบไร้ถ้วยแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ฤดูกาล หลังพ่ายต่อ “อินเตอร์ มิลาน” ในศึก โคปปา อิตาเลีย 2021/2022 นัดชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 4-2
ถือได้ว่าเป็นการยุติ ทศวรรษแห่งความสำเร็จ อย่างเป็นทางการสำหรับไอ้ม้าลาย ยูเวนตุส ที่ครองความยิ่งใหญ่ทั้งในประเทศอิตาลี และมีบทบาทในฟุตบอลยุโรปมาตั้งแต่ปี 2011
เรามาย้อนดูความสำเร็จ จุดเปลี่ยน และ ก้าวต่อไป ของทีมยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีทีมนี้ด้วยกันใน “ยูเวนตุส: จากสูงสุดสู่สามัญ”
“ยูเวนตุส” ไร้ถ้วยในรอบ 11 ปี…
2011 – 2021 ทศวรรษที่ยิ่งใหญ่ของ “ยูเวนตุส”
ตลอด 10 ปีระหว่างปี 2011-2021 ยูเวนตุส แทบจะครองวงการฟุตบอลอิตาลีอยู่ทีมเดียวก็ว่าได้ โดยไอ้ม้าลายกวาดแชมป์ลีก กัลโช่ เซเรีย อา ได้ถึง 9 สมัยติดต่อกันตั้งแต่ฤดูกาล 2011/2012 – 2019/2020, แชมป์โคปปา อิตาเลีย 5 สมัย, แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย 5 สมัย แถมในเวทียุโรป ยูเวนตุส ยังทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 2 ครั้งในฤดูกาล 2014/2015 และ 2016/2017
ยูเวนตุส ค่อย ๆ สร้างทีมที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปี 2011 โดยในช่วงแรกตั้งแต่ปี 2011 – 2015 พวกเขาเริ่มจากการสร้างทีมคุณภาพด้วยต้นทุนที่ต่ำ เช่นการดึง อันเดรีย ปีร์โล่ (ฟรี), ปอล ป็อกบา (ฟรี), อาร์ตูโร่ วิดัล (10ล้านยูโร), อันเดรีย บาร์ซาญี่ (6แสนยูโร), สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์ (10ล้านยูโร), คาร์ลอส เตเบซ (10ล้านยูโร), ปาทริซ เอฟรา (ฟรี)
หลังจากปี 2015 เมื่อทีมเริ่มมีรายได้ที่มากขึ้น ยูเวนตุส ก็ยังมีงบมากขึ้นในการสอยนักเตะฝีเท้าดีมาช่วยล่าแชมป์ได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น เปาโล ดีบาล่า (32ล้านยูโร), มาริโอ มานด์ซูคิช (19ล้านยูโร), มิราเล็ม ปานิช (32ล้านยูโร), อเล็กซ์ ซานโดร (26ล้านยูโร), กอนซาโล่ อิกวาอิน (90ล้านยูโร)
ถ้าถามว่าทีมไอ้ม้าลายแข็งแกร่งและน่าดึงดูดขนาดไหน ก็ต้องตอบว่าแข็งแกร่งถึงขนาดที่สุดยอดดาวยิงตลอดกาลอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตกลงย้ายมาร่วมทีม ยูเวนตุส ในปี 2018
จุดเปลี่ยนสำคัญของ “ยูเวนตุส”
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ความสำเร็จของ ยูเวนตุส เริ่มหักเหในปี 2018 ซึ่งมันไม่ใช่การมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่มันเป็นการเปลี่ยนตำแหน่งผู้อำนวยการทีมจาก จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า (ผอ. อินเตอร์ มิลาน คนปัจจุบัน) มาเป็น ฟาบิโอ ปาราติชี่ (ผอ. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คน)
จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า คือผู้อยู่เบื้องหลังการซื้อขายตัวที่ยอดเยี่ยมของ ยูเวนตุส ระหว่างฤดูกาล 2011 – 2018 แต่เมื่อ ยูเวนตุส ไม่ต่อสัญญากับ จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า เขาจึงไปรับงานใหม่ที่ อินเตอร์ มิลาน และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการกลับมาคว้าแชมป์ของ อินเตอร์ มิลาน ทั้ง แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 2020/2021 และ แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2021/2022
ในทางกลับกันเมื่อ ฟาบิโอ ปาราติชี่ ขึ้นมารับตำแหน่งผู้อำนวยการทีม ยูเวนตุส ในปี 2018 แม้ว่าทีมจะเพิ่งได้ตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทัพ แต่เมื่อการเสริมทีมโดยรอบไม่ได้ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น แม้จะมีดาวยิงสูงสุดตลอดกาลอย่าง CR7 ทีมก็ไม่สามารถไปต่อได้
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือการเสริมแผงกองกลางที่ผิดพลาดโดย ฟาบิโอ ปาราตีชี่ เลือกที่จะเซ็นผู้เล่นอย่าง เอเดรียง ราบิโอต์, อารอน แรมซี่ย์, และ อาร์ตูร์ เข้ามาสู่ทีม โดยเมื่อเวลาผ่านไปก็ได้พิสูจน์แล้วว่ากองกลางเหล่านี้ไม่สามารถทำผลงานที่ดีให้กับทีมได้และกลายเป็นจุดบอดของทีม ยูเวนตุส ยิ่งหากเทียบกองกลางที่ ปาราตีชี่ นำเข้าทีมกับกองกลางที่ มาร็อตต้า เสริมมาอย่าง อันเดรีย ปีร์โล่, ปอล ป็อกบา , อาร์ตูโร่ วิดัล, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, มิราเล็ม ปานิช, ซามี่ เคดิร่า, หรือ แบลส มาตุยดี้ เรียกได้ว่าคนละเรื่องเลยทีเดียว
แม้ ฟาบิโอ ปาราตีชี่ จะแยกทางกับ ยูเวนตุส ไปเป็น ผอ. ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อปี 2021 แต่โครงสร้างทีมที่ไม่แข็งแรงที่ ปาราตีชี่ ได้ฝากเอาไว้ยังคงอยู่ในทีม และถึงแม้ ยูเวนตุส จะดึงตัว มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ผู้นำความสำเร็จมาให้ ยูเวนตุส มากมายก่อนหน้านี้กลับมารับบทกุนซือแต่ อัลเลกรี ก็ไม่สามารถพา ยูเวนตุส กลับมาคว้าแชมป์ใด ๆ ได้ในปีนี้ กลายเป็นฤดูกาลแรกในรอบ 11 ฤดูกาลที่ ยูเวนตุส คว้าน้ำเหลวไม่มีแชมป์ประดับสโมสรแม้แต่ถ้วยเดียว
การเริ่มต้นใหม่ของ “ยูเวนตุส”
หลังจากการแยกทางกับ ฟาบิโอ ปาราติชี่ เมื่อต้นฤดูกาล 2021/2022 ยูเวนตุส ก็ได้สร้างทีมผู้บริหารชุดใหม่ที่เข้ามาดูแนวทางการซื้อนักเตะ โดยมี เมาริซิโอ อาร์ริวาเบเน่ อดีตหัวหน้าทีมแข่งเฟอร์รารี่ แห่งวงการรถสูตรหนึ่ง F1 เข้ามาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทีม และมี เฟเดริโก้ เชรูบีนี่ อดีตผอ. ทีมเยาวชนของ ยูเวนตุส ก้าวขึ้นมาเป็น ผู้อำนวยการฟุตบอล โดยมีรองประธานสโมสรอย่าง พาเว็ล เน็ดเว็ด ตำนานของทีมเป็นผู้สอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง
แม้ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2021/2022 ทีมงานผู้บริหารของ ยูเวนตุส จะยังไม่ได้ขยับอะไรมากมายในตลาดซื้อขายนักเตะ มีเพียงการคว้าตัว มานูเอล โลคาเตลลี่ กองกลางดีกรีแชมป์ ยูโร 2020 มาร่วมทีมเท่านั้น แถมยังเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกจากทีมไปอีก แต่พอเข้าสู่ช่วงตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคม ทีมผู้บริหารก็เริ่มแสดงการแก้ปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยการไปปิดดีลคว้าตัว ดูซาน วลาโฮวิช กองหน้าอนาคตไกลมาร่วมทัพ พร้อมด้วยการเซ็น เดนิส ซากาเรีย กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์เข้ามาเสริมแกร่งอีก จากการเสริมทัพในช่วงหน้าหนาว ก็พอบ่งบอกได้ว่าผู้บริหารของ ยูเวนตุส ชุดนี้ เริ่มเห็นอะไรบางอย่าง
จากแหล่งข่าวที่ออกมาผู้บริหาร ยูเวนตุส ชุดนี้เริ่มเล็งเห็นปัญหาและเตรียมที่จะล้างไพ่เพื่อสร้างทีมใหม่พอสมควร ทั้งการเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับ เปาโล ดีบาล่า สตาร์ของทีมที่ผู้บริหารมองว่าเล่นไม่คุ้มค่าเหนื่อยแล้วในช่วงหลายปีหลัง การเตรียมสร้างแผงกองกลางใหม่ด้วยการโละ เอเดรียง ราบิโอต์, อารอน แรมซี่ย์, และ อาร์ตูร์ ให้พ้นทีมพร้อมที่จะเสริมกองกลางชั้นเซียนที่สามารถสร้างสรรเกมรุกได้ดีกว่าเดิม โดยตัวเลือกที่มีข่าวเช่น ปอล ป็อกบา อดีตกองกลางของพวกเขาเอง หรือแม้กระทั้ง เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช กองกลางระดับท็อปของ กัลโช่ เซเรีย อา มาร่วมทีม และเตรียมโละอีกบางตำแหน่งที่เป็นจุดบอดในช่วงหลังเช่น อเล็กซ์ ซานโดร แบ็คซ้ายทีมชาติบราซิลที่ผลงานโรยรามาหลายฤดูกาลแล้ว
ทั้งนี้เชื่อว่าแม้ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี จะไม่สามารถพา ยูเวนตุส คว้าแชมป์ใด ๆ ได้เลยก็ตามในฤดูกาลนี้ แต่ทางบอร์ดบริหารชุดนี้ที่เป็นคนดึง อัลเลกรี กลับมาเมื่อช่วงต้นปี ยังจะให้โอกาส อัลเลกรี ได้ทำทีมต่อในฤดูกาลหน้ากับกลุ่มนักเตะชุดใหม่ที่ทางผู้บริหารและ อัลเลกรี จะได้เลือกและซื้อเข้ามาสู่ทีม
เชื่อว่าในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะก่อนเปิดฤดูกาล 2022/2023 ยูเวนตุส จะเป็นหนึ่งทีมที่จะเสริมนักเตะใหม่ ๆ พอสมควร เรามารอดูกันว่า การเปลี่ยนแปลงทีมของ ยูเวนตุส จะเป็นไปในแนวทางไหน และเมื่อ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ได้ผู้เล่นที่เข้ามือกว่าจะสามารถพา ยูเวนตุส กลับไปประสบความสำเร็จได้หรือไม่
ยูเวนตุส: จาก “สูงสุด” สู่ “สามัญ | TunGame
เป็นที่แน่นอนแล้วว่าทีมยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีอย่าง “ยูเวนตุส” จะจบฤดูกาล 2021/2022 แบบไร้ถ้วยแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ฤดูกาล หลังพ่ายต่อ “อินเตอร์ มิลาน” ในศึก โคปปา อิตาเลีย 2021/2022 นัดชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 4-2
ถือได้ว่าเป็นการยุติ ทศวรรษแห่งความสำเร็จ อย่างเป็นทางการสำหรับไอ้ม้าลาย ยูเวนตุส ที่ครองความยิ่งใหญ่ทั้งในประเทศอิตาลี และมีบทบาทในฟุตบอลยุโรปมาตั้งแต่ปี 2011
เรามาย้อนดูความสำเร็จ จุดเปลี่ยน และ ก้าวต่อไป ของทีมยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีทีมนี้ด้วยกันใน “ยูเวนตุส: จากสูงสุดสู่สามัญ”
2011 – 2021 ทศวรรษที่ยิ่งใหญ่ของ “ยูเวนตุส”
ตลอด 10 ปีระหว่างปี 2011-2021 ยูเวนตุส แทบจะครองวงการฟุตบอลอิตาลีอยู่ทีมเดียวก็ว่าได้ โดยไอ้ม้าลายกวาดแชมป์ลีก กัลโช่ เซเรีย อา ได้ถึง 9 สมัยติดต่อกันตั้งแต่ฤดูกาล 2011/2012 – 2019/2020, แชมป์โคปปา อิตาเลีย 5 สมัย, แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย 5 สมัย แถมในเวทียุโรป ยูเวนตุส ยังทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 2 ครั้งในฤดูกาล 2014/2015 และ 2016/2017
ยูเวนตุส ค่อย ๆ สร้างทีมที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปี 2011 โดยในช่วงแรกตั้งแต่ปี 2011 – 2015 พวกเขาเริ่มจากการสร้างทีมคุณภาพด้วยต้นทุนที่ต่ำ เช่นการดึง อันเดรีย ปีร์โล่ (ฟรี), ปอล ป็อกบา (ฟรี), อาร์ตูโร่ วิดัล (10ล้านยูโร), อันเดรีย บาร์ซาญี่ (6แสนยูโร), สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์ (10ล้านยูโร), คาร์ลอส เตเบซ (10ล้านยูโร), ปาทริซ เอฟรา (ฟรี)
หลังจากปี 2015 เมื่อทีมเริ่มมีรายได้ที่มากขึ้น ยูเวนตุส ก็ยังมีงบมากขึ้นในการสอยนักเตะฝีเท้าดีมาช่วยล่าแชมป์ได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น เปาโล ดีบาล่า (32ล้านยูโร), มาริโอ มานด์ซูคิช (19ล้านยูโร), มิราเล็ม ปานิช (32ล้านยูโร), อเล็กซ์ ซานโดร (26ล้านยูโร), กอนซาโล่ อิกวาอิน (90ล้านยูโร)
ถ้าถามว่าทีมไอ้ม้าลายแข็งแกร่งและน่าดึงดูดขนาดไหน ก็ต้องตอบว่าแข็งแกร่งถึงขนาดที่สุดยอดดาวยิงตลอดกาลอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตกลงย้ายมาร่วมทีม ยูเวนตุส ในปี 2018
จุดเปลี่ยนสำคัญของ “ยูเวนตุส”
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ความสำเร็จของ ยูเวนตุส เริ่มหักเหในปี 2018 ซึ่งมันไม่ใช่การมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่มันเป็นการเปลี่ยนตำแหน่งผู้อำนวยการทีมจาก จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า (ผอ. อินเตอร์ มิลาน คนปัจจุบัน) มาเป็น ฟาบิโอ ปาราติชี่ (ผอ. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คน)
จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า คือผู้อยู่เบื้องหลังการซื้อขายตัวที่ยอดเยี่ยมของ ยูเวนตุส ระหว่างฤดูกาล 2011 – 2018 แต่เมื่อ ยูเวนตุส ไม่ต่อสัญญากับ จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า เขาจึงไปรับงานใหม่ที่ อินเตอร์ มิลาน และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการกลับมาคว้าแชมป์ของ อินเตอร์ มิลาน ทั้ง แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 2020/2021 และ แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2021/2022
ในทางกลับกันเมื่อ ฟาบิโอ ปาราติชี่ ขึ้นมารับตำแหน่งผู้อำนวยการทีม ยูเวนตุส ในปี 2018 แม้ว่าทีมจะเพิ่งได้ตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทัพ แต่เมื่อการเสริมทีมโดยรอบไม่ได้ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น แม้จะมีดาวยิงสูงสุดตลอดกาลอย่าง CR7 ทีมก็ไม่สามารถไปต่อได้
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือการเสริมแผงกองกลางที่ผิดพลาดโดย ฟาบิโอ ปาราตีชี่ เลือกที่จะเซ็นผู้เล่นอย่าง เอเดรียง ราบิโอต์, อารอน แรมซี่ย์, และ อาร์ตูร์ เข้ามาสู่ทีม โดยเมื่อเวลาผ่านไปก็ได้พิสูจน์แล้วว่ากองกลางเหล่านี้ไม่สามารถทำผลงานที่ดีให้กับทีมได้และกลายเป็นจุดบอดของทีม ยูเวนตุส ยิ่งหากเทียบกองกลางที่ ปาราตีชี่ นำเข้าทีมกับกองกลางที่ มาร็อตต้า เสริมมาอย่าง อันเดรีย ปีร์โล่, ปอล ป็อกบา , อาร์ตูโร่ วิดัล, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, มิราเล็ม ปานิช, ซามี่ เคดิร่า, หรือ แบลส มาตุยดี้ เรียกได้ว่าคนละเรื่องเลยทีเดียว
แม้ ฟาบิโอ ปาราตีชี่ จะแยกทางกับ ยูเวนตุส ไปเป็น ผอ. ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อปี 2021 แต่โครงสร้างทีมที่ไม่แข็งแรงที่ ปาราตีชี่ ได้ฝากเอาไว้ยังคงอยู่ในทีม และถึงแม้ ยูเวนตุส จะดึงตัว มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ผู้นำความสำเร็จมาให้ ยูเวนตุส มากมายก่อนหน้านี้กลับมารับบทกุนซือแต่ อัลเลกรี ก็ไม่สามารถพา ยูเวนตุส กลับมาคว้าแชมป์ใด ๆ ได้ในปีนี้ กลายเป็นฤดูกาลแรกในรอบ 11 ฤดูกาลที่ ยูเวนตุส คว้าน้ำเหลวไม่มีแชมป์ประดับสโมสรแม้แต่ถ้วยเดียว
การเริ่มต้นใหม่ของ “ยูเวนตุส”
หลังจากการแยกทางกับ ฟาบิโอ ปาราติชี่ เมื่อต้นฤดูกาล 2021/2022 ยูเวนตุส ก็ได้สร้างทีมผู้บริหารชุดใหม่ที่เข้ามาดูแนวทางการซื้อนักเตะ โดยมี เมาริซิโอ อาร์ริวาเบเน่ อดีตหัวหน้าทีมแข่งเฟอร์รารี่ แห่งวงการรถสูตรหนึ่ง F1 เข้ามาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทีม และมี เฟเดริโก้ เชรูบีนี่ อดีตผอ. ทีมเยาวชนของ ยูเวนตุส ก้าวขึ้นมาเป็น ผู้อำนวยการฟุตบอล โดยมีรองประธานสโมสรอย่าง พาเว็ล เน็ดเว็ด ตำนานของทีมเป็นผู้สอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง
แม้ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2021/2022 ทีมงานผู้บริหารของ ยูเวนตุส จะยังไม่ได้ขยับอะไรมากมายในตลาดซื้อขายนักเตะ มีเพียงการคว้าตัว มานูเอล โลคาเตลลี่ กองกลางดีกรีแชมป์ ยูโร 2020 มาร่วมทีมเท่านั้น แถมยังเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกจากทีมไปอีก แต่พอเข้าสู่ช่วงตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคม ทีมผู้บริหารก็เริ่มแสดงการแก้ปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยการไปปิดดีลคว้าตัว ดูซาน วลาโฮวิช กองหน้าอนาคตไกลมาร่วมทัพ พร้อมด้วยการเซ็น เดนิส ซากาเรีย กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์เข้ามาเสริมแกร่งอีก จากการเสริมทัพในช่วงหน้าหนาว ก็พอบ่งบอกได้ว่าผู้บริหารของ ยูเวนตุส ชุดนี้ เริ่มเห็นอะไรบางอย่าง
จากแหล่งข่าวที่ออกมาผู้บริหาร ยูเวนตุส ชุดนี้เริ่มเล็งเห็นปัญหาและเตรียมที่จะล้างไพ่เพื่อสร้างทีมใหม่พอสมควร ทั้งการเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับ เปาโล ดีบาล่า สตาร์ของทีมที่ผู้บริหารมองว่าเล่นไม่คุ้มค่าเหนื่อยแล้วในช่วงหลายปีหลัง การเตรียมสร้างแผงกองกลางใหม่ด้วยการโละ เอเดรียง ราบิโอต์, อารอน แรมซี่ย์, และ อาร์ตูร์ ให้พ้นทีมพร้อมที่จะเสริมกองกลางชั้นเซียนที่สามารถสร้างสรรเกมรุกได้ดีกว่าเดิม โดยตัวเลือกที่มีข่าวเช่น ปอล ป็อกบา อดีตกองกลางของพวกเขาเอง หรือแม้กระทั้ง เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช กองกลางระดับท็อปของ กัลโช่ เซเรีย อา มาร่วมทีม และเตรียมโละอีกบางตำแหน่งที่เป็นจุดบอดในช่วงหลังเช่น อเล็กซ์ ซานโดร แบ็คซ้ายทีมชาติบราซิลที่ผลงานโรยรามาหลายฤดูกาลแล้ว
ทั้งนี้เชื่อว่าแม้ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี จะไม่สามารถพา ยูเวนตุส คว้าแชมป์ใด ๆ ได้เลยก็ตามในฤดูกาลนี้ แต่ทางบอร์ดบริหารชุดนี้ที่เป็นคนดึง อัลเลกรี กลับมาเมื่อช่วงต้นปี ยังจะให้โอกาส อัลเลกรี ได้ทำทีมต่อในฤดูกาลหน้ากับกลุ่มนักเตะชุดใหม่ที่ทางผู้บริหารและ อัลเลกรี จะได้เลือกและซื้อเข้ามาสู่ทีม
เชื่อว่าในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะก่อนเปิดฤดูกาล 2022/2023 ยูเวนตุส จะเป็นหนึ่งทีมที่จะเสริมนักเตะใหม่ ๆ พอสมควร เรามารอดูกันว่า การเปลี่ยนแปลงทีมของ ยูเวนตุส จะเป็นไปในแนวทางไหน และเมื่อ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ได้ผู้เล่นที่เข้ามือกว่าจะสามารถพา ยูเวนตุส กลับไปประสบความสำเร็จได้หรือไม่
จารย์ต้น
แชร์เนื้อหา
FOLLOW US
POPULAR
ราฟาแอล วาราน มาแล้ว แชมป์ มาได้หรือยัง? | TunGame
อ่านต่อ »จากนักเตะติดสุราจนถึงผู้เล่นระดับตำนาน … เปิดอดีต 6 แข้ง เบอร์ 10 ของอาร์เซน่อล | TunGame
อ่านต่อ »สุดดราม่า! บทวิเคราะห์หลังเกม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | TunGame
อ่านต่อ »ทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำครึ่งฤดูกาลแรก | TunGame
อ่านต่อ »LATEST POST
พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝ่า 2 เดือนอำมะหิตแต่จบด้วย แชมป์ | TunGame
อ่านต่อ »บทสัมภาษณ์แฟนปีศาจแดง | TunGame
อ่านต่อ »ถึงเวลาแล้วที่เชลซีต้องแยกทางกับเมสัน เมาท์ | TunGame
อ่านต่อ »ใครจะมาคุมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในฤดูกาลหน้า? | TunGame
อ่านต่อ »TOPICS
News Update
Commentary
Documentary
Match Analysis
RELATED POST
พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝ่า 2 เดือนอำมะหิตแต่จบด้วย แชมป์ | TunGame
บทสัมภาษณ์แฟนปีศาจแดง | TunGame
ถึงเวลาแล้วที่เชลซีต้องแยกทางกับเมสัน เมาท์ | TunGame
ใครจะมาคุมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในฤดูกาลหน้า? | TunGame