เรื่องราวน่าสนใจสำหรับศึก ยูโร 2020 | TunGame
ในที่สุดศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติของทวีปยุโรปหรือที่แฟนบอลเรียกสั้นๆว่ายูโร ก็ได้ฤกษ์จัดซักที หลังจากโดนพิษ ไวรัสโควิด-19 เล่นงานจนทำให้ต้องเลื่อนจัดการแข่งขันไปเป็นเวลากว่าหนึ่งปีดังนั้นเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้นในค่ำคืนวันศุกร์ที่11 มิ.ย. (เข้าตรู่วันที่ 12 มิ.ย. ตามเวลาบ้านเรา) ทันเกมจึงอยากจะมาเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจของศึกยูโร2020 ในเวอร์ชันดีเลย์นี้กัน
ฟาดแข้งทั่วทวีป
นี่จะเป็นครั้งแรกที่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติของทวีปยุโรปหรือยูโร จะมีเจ้าภาพจัดการแข่งขันมากถึง 11 เมืองทั่วทวีปเนื่องจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ต้องการเฉลิมฉลองในวาระครอบรอบ 60 ปี ของรายการดังกล่าว
โดยตอนแรก ยูฟ่าต้องการจะใช้ 12 เมือง ทำการแข่งขันแต่ด้วยมาตรการความเข้มข้นในการควบคุมการแพร่ระบาดของ โคโรน่าไวรัสที่ไม่เหมือนกันในแต่ละเมืองก็ส่งผลให้เมืองอย่าง ดับลิน และ บิลเบาโดนยูฟ่าริบสิทธิ์ในการจัดการแข่งขันเพราะทั้ง 2 ที่ ไม่สามารถการันตีจำนวนแฟนบอลที่จะเข้าไปชมเกมส์ในสนามได้และกลายเป็นเมืองเซบีญ่าที่มาเสียบตำแหน่งที่หายไปของเมือง บิลเบา ส่วนเกมส์ที่ดับลิน ก็จะโดนโยกไปแข่งที่กรุงลอนดอน และ กรุงซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แทน
จาก 22 เป็น 26 คน
เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายูฟ่า ได้ประกาศให้แต่ละทีมส่งรายชื่อนักเตะได้เพิ่มจาก 23 คน เป็น 26 คนเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในภาวะขาดแคลนนักเตะจากกรณีที่อาจมีผู้เล่นติดเชื้อโควิด-19 ในระหว่างทัวร์นาเมนต์ รวมถึงนักเตะคนอื่นๆ ที่อาจต้องกักตัวตามมาตราการป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งถึงแม้ว่ารายชื่อนักเตะทั้งหมดจะถูกส่งตั้งแต่วันที่1 มิ.ย. ที่ผ่านมาแต่ทุกทีมยังสามารถทำการปรับเปลี่ยนรายชื่อผู้เล่นได้จนก่อนเกมส์แรกจะเริ่มขึ้น ในกรณีที่มีผู้เล่นในทีมบาดเจ็บหรือป่วยอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ดีในแต่ละแมทช์การแข่งขันทุกทีมก็ยังส่งรายชื่อผู้เล่นได้ทีมละ 23 คนเท่านั้นซึ่งเป็นไปตามกฏที่คณะกรรมการสมาคมฟุตบอนานาชาติหรือ ไอแฟบกำหนดไว้ว่าอนุญาติให้ผู้มีเล่นตัวสำรองสูงสุด 12 คน รวมผู้รักษาประตู 3 คน ในเกมส์ทีมชาติระดับเอ
ทีมหน้าใหม่ในศึก ยูโร 2020
ในศึก ยูโรครั้งนี้ จะมีทีมน้องใหม่ที่เข้ามาสร้างสีสีนให้กับทัวร์นาเมนต์ 2 ชาติด้วยกัน นั่นก็คือทีมชาติฟินแลนด์ และ ทีมขาติมาร์ซิโดเนียเหนือโดยถ้าว่ากันตามตรง ทั้ง 2 ชาตินี้แฟนบอลชาวไทยคงไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่โดยเฉพาะทีมหลัง
เรื่มต้นที่ ทีมชาติฟินแลนด์ซึ่งผ่านการเข้ารอบคัดเลือกเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มเจเป็นรองเพียงแค่ อิตาลี และผ่านทีมอย่าง กรีซ และ บอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวีนามาได้ โดยผู้เล่นที่ร้อนแรงที่สุดของทีมก็คงหนีไม่พ้นตีมู ปุ๊กกี้ ดาวซัลโวของสโมสร นอริช ซิติ้ ทีมน้องใหม่ หน้าเก่าของศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่ตะบันไปถึง 10 ประตูให้กับฟินแลนด์ ในช่วงรอบคัดเลือก (ติดตามเรื่องราวเพิ่มเติมของ นอริช ซิติ้และทีมน้องใหม่ หน้าเก่าอื่นๆ ของลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้ที่นี่)
ในส่วนของทีมชาติมาร์ซิโดเนียเหนือนั้นสามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายด้วยการเพลย์ออฟจากทีมที่ได้สิทธิ์จากผลงานในศึกเนชั่น ลีกส์ ซึ่งพวกเขาสามารถเอาชนะ โคโซโว และ จอร์เจีย มาได้ สำหรับผู้เล่นดาวดังของทีมที่แฟนบอลชาวไทยน่าจะคุ้นหูหน่อยก็คงจะเป็นโกรัน ปานเดฟ อดีตกองหน้า อินเตอร์ มิลาน ยุค 3 แชมป์ วัย 37 ปี ที่ปัจจุบันค้าแข้งให้ เจนัว ในศึก กัลโช่เซเรีย อา อิตาลี และ เอซยานอลิออสกี้แบ็คซ้าย ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สถิติมีไว้ทำลาย
มันมีความเป็นไปได้สูงว่าสถิติส่วนบุคคลที่สำคัญที่สุด 2 สถิติ ในการแข่งขันชิงถ้วยฟุตบอลแห่งชาติยุโรปอาจถูกทำลายด้วยบุรุษคนสำคัญแห่งวงการลูกหนังที่มีชื่อว่า“คริสเตียโน่ โรนัลโด้” โดยสถิติแรกคือการเป็นผู้เล่นที่ยิงมากที่สุดในศึกยูโรซึ่งในขณะนี้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกสเป็นเจ้าของสถิติร่วมกับ มิเชล พลาตินี่อดีตตำนานลูกหนังทีมชาติฝรั่งเศสที่ซัดไป 9 ประตู เท่ากัน นอกจากนี้ กองหน้าของสโมสรยูเวนตุสก็ยังมีสถิติแอสซิสต์ในทัวร์นาเมนต์นี้ถึง6 ครั้งซึ่งเป็นรองเพียงแค่ คาเรล โพบอร์สกี้ อดีตกองกลางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก ที่ทำไว้ 8 ครั้ง
ดังนั้นถ้าดูจากความสามารถของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้และขุมกำลังของทีมชาติโปรตุเกสที่เขาจะร่วมเล่นด้วยในศึกยูโรครั้งนี้ มันก็ดูไม่น่าจะเหลือบ่ากว่าแรงสำหรับดาวเตะวัย36 ปี ที่จะทำลาย 2สถิติดังกล่าวและนำมาประดับบารมีในอาขีพการค้าแข้งของเจ้าตัว
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวน่าสนใจที่ทางทันเกมคัดสรรมาให้แฟนเพจได้อ่านกันและแอบหวังเล็กๆ ในข่วงโค้งสุดท้ายนี้ว่าแฟนบอลชาวไทยทุกคนจะมีโอกาสได้ดูศึกยูโร 2020กันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา หลังข่าวสิขสิทธ์การถ่ายทอดสดในไทยยังคงเงียบฉี่
support
แชร์เนื้อหา