Light
Dark
เกิดเป็นมีมขึ้นมาอย่างทั่วโลกสำหรับภาพของ วิล สมิธ ดาราหนุ่มวัยเก๋าที่เพิ่งจะคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในเวทีประกาศผลออสการ์ปี 2022 เข้าไปตบหน้า คริส ร็อค ดาราตลกชื่อดังที่ขึ้นไปแซวเมียน้าวิลบนเวที ถึงแม้ทั้งสองจะเคยร่วมงานกันมาเป็นระยะตั้งแต่ The Fresh Prince of Bel-Air ในปี 1985 ก็ตาม หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับฟุตบอลยังไง เราจะมาอธิบายให้ฟังกัน แล้วคุณหละเห็นด้วยกับการกระทำของน้าวิลไหม? หรือชื่นชมกับการรับมือของคริส ร็อคมากกว่า?
อุตสาหกรรมภาพยนตร์มันไม่เห็นจะเกี่ยวกับฟุตบอลตรงไหนเลย แต่ถึงแม้วงการฟุตบอลนั้นจะเริ่มด้วยการแข่งขันชิงชัยกันเป็นหนึ่ง แต่เราจะเห็นได้ชัดจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษว่าปัจจุบันนั้นวงการฟุตบอลถูกครอบด้วยอุตสาหกรรมบันเทิงอีกทีหนึ่ง ไม่ว่าจะเรื่องการขุดคุ้ยถึงประวัติที่มาที่ไปของนักกีฬา การใช้ชีวิตประจำวันส่วนตัว ความสัมพันธ์ หรือเรื่องชู้สาวของนักเตะ แฟนบอลและแฟนภาพยนตร์ต่างต้องการที่จะเสพย์ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม ถึงแม้ว่าทั้งสองวงการจะมีกิจกรรมหลักที่แตกต่างกันคือการแสดงกับการเตะฟุตบอล แต่ท้ายที่สุดแล้วแฟนบอลของทั้งสองวงการนี้ส่วนใหญ่ต่างเสพเพื่อความบันเทิงเฉกเช่นเดียวกับนักธุรกิจต่างๆที่เข้ามาลงทุน
ในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากเรื่อง เพศ การแบ่งแยก แนวคิด และการใช้ความรุนแรง มันส่งผลเป็นวงกว้างทำให้มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เช่นในวงการฟุตบอลก็มีการเรียกร้องเรียกการแบ่งแยกสีผิว และการเลือกใช้นักแสดงในภาพยนตร์ที่จะต้องมีความหลากหลายในชนชาติมากขึ้น แต่สำคัญที่สุดคือเรื่องการใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในวงการฟุตบอล อย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ที่ อิศเรศ น้อยใจบุญ ฟันศอกใส่ ศุภสัณฑ์ เรืองศุภนิมิต ในศึกไทยลีก 3 ก็เป็นประเด็นไปทั่วโลกหรือในโลกออนไลน์ก็เหมือนกันที่ประนามการกระทำของฝ่ายแรกว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้องและโดนขับไล่ออกจากสโมสรทันที เพื่อไม่ให้วลี “บอลไทย ไปมวยโลก” กลับมาอีกครั้ง ถึงแม้จะมีการขอโทษขอโพยกันแล้วแต่มันก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่งเมื่อคุณเข้ามาเล่นในเกมแล้วคุณก็ต้องเคารพกฏกติกาที่วางไว้
นักแสดงกับนักฟุตบอลต่างก็เป็นบุคคลสาธารณะที่สามารถมีบทบาทในสังคมได้ เป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนและคนทั่วไปได้ ความรุนแรงจึงไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้ ในกรณีของวิล สมิธเองก็ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ทั้งไทยและต่างประเทศ ถึงแม้ว่าความเห็นส่วนใหญ่ของคนไทยจะโอนเอียงไปทางเข้าใจว่าทำไมวิล สมิธถึงมีการตอบสนองต่อคำพูดของคริส ร็อคแบบนั้นแต่ก็ยอมรับไม่ได้ ความเห็นในโลกออนไลน์ของต่างประเทศกลับแตกต่างกันออกไปโดยจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของน้าวิลอย่างสิ้นเชิงและชื่นชมการรับมือของดาวตลกวัยเก๋าเสียมากกว่า เพราะการรับมือด้วยการไม่ตอบโต้กลับด้วยความรุนแรงและเป็นมืออาชีพของคริส ร็อคนั้นทำให้เหตุการณ์ไม่บานปลายในที่สุด
สุดท้ายนี้ผู้เขียนก็มองว่าไม่ว่าจะเป็นการล้อเลียนเรื่องของรูปร่างหน้าตา เชื้อชาติ เพศ หรือการใช้ความรุนแรงไม่ควรเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมไหนๆในยุคนี้ ผู้คนที่กระทำสิ่งเหล่านี้ควรจะได้รับผลกระทำทางสังคมไม่มากก็น้อย แต่เมื่อทำสิ่งเหล่านั้นไปแล้วไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามแต่ออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการกับสังคมเหมือนที่ วิล สมิธ หรือ อิศเรศ ทำนั้นก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำแต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเหตุความรุนแรงที่ตนเองก่อนั้นจะหายไป
ตารางการแข่งขัน ตารางผลบอล
เต็งแชมป์ EPL
แชร์เนื้อหา
FOLLOW US
LATEST POST
5 เรื่องไม่น่าเชื่อ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021/22 | TunGame
จาก “ผี” สู่ “หงส์” กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป | TunGame
3 ผู้ตัดสินที่เตรียมแขวนนกหวีดหลังจบพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ | TunGame
วิเคราะห์ผลงานนอกสนามของแมนยู | TunGame
TOPICS
News Update
Commentary
Documentary
Match Analysis
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
โลกที่ไม่มีที่ยืนให้ความรุนแรง | TunGame
เกิดเป็นมีมขึ้นมาอย่างทั่วโลกสำหรับภาพของ วิล สมิธ ดาราหนุ่มวัยเก๋าที่เพิ่งจะคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในเวทีประกาศผลออสการ์ปี 2022 เข้าไปตบหน้า คริส ร็อค ดาราตลกชื่อดังที่ขึ้นไปแซวเมียน้าวิลบนเวที ถึงแม้ทั้งสองจะเคยร่วมงานกันมาเป็นระยะตั้งแต่ The Fresh Prince of Bel-Air ในปี 1985 ก็ตาม หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับฟุตบอลยังไง เราจะมาอธิบายให้ฟังกัน แล้วคุณหละเห็นด้วยกับการกระทำของน้าวิลไหม? หรือชื่นชมกับการรับมือของคริส ร็อคมากกว่า?
ความเหมือนที่แตกต่าง ภาพยนตร์ กับ ฟุตบอล
อุตสาหกรรมภาพยนตร์มันไม่เห็นจะเกี่ยวกับฟุตบอลตรงไหนเลย แต่ถึงแม้วงการฟุตบอลนั้นจะเริ่มด้วยการแข่งขันชิงชัยกันเป็นหนึ่ง แต่เราจะเห็นได้ชัดจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษว่าปัจจุบันนั้นวงการฟุตบอลถูกครอบด้วยอุตสาหกรรมบันเทิงอีกทีหนึ่ง ไม่ว่าจะเรื่องการขุดคุ้ยถึงประวัติที่มาที่ไปของนักกีฬา การใช้ชีวิตประจำวันส่วนตัว ความสัมพันธ์ หรือเรื่องชู้สาวของนักเตะ แฟนบอลและแฟนภาพยนตร์ต่างต้องการที่จะเสพย์ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม ถึงแม้ว่าทั้งสองวงการจะมีกิจกรรมหลักที่แตกต่างกันคือการแสดงกับการเตะฟุตบอล แต่ท้ายที่สุดแล้วแฟนบอลของทั้งสองวงการนี้ส่วนใหญ่ต่างเสพเพื่อความบันเทิงเฉกเช่นเดียวกับนักธุรกิจต่างๆที่เข้ามาลงทุน
โลกที่ไม่มีที่ยืนให้ความรุนแรง
ในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากเรื่อง เพศ การแบ่งแยก แนวคิด และการใช้ความรุนแรง มันส่งผลเป็นวงกว้างทำให้มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เช่นในวงการฟุตบอลก็มีการเรียกร้องเรียกการแบ่งแยกสีผิว และการเลือกใช้นักแสดงในภาพยนตร์ที่จะต้องมีความหลากหลายในชนชาติมากขึ้น แต่สำคัญที่สุดคือเรื่องการใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในวงการฟุตบอล อย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ที่ อิศเรศ น้อยใจบุญ ฟันศอกใส่ ศุภสัณฑ์ เรืองศุภนิมิต ในศึกไทยลีก 3 ก็เป็นประเด็นไปทั่วโลกหรือในโลกออนไลน์ก็เหมือนกันที่ประนามการกระทำของฝ่ายแรกว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้องและโดนขับไล่ออกจากสโมสรทันที เพื่อไม่ให้วลี “บอลไทย ไปมวยโลก” กลับมาอีกครั้ง ถึงแม้จะมีการขอโทษขอโพยกันแล้วแต่มันก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่งเมื่อคุณเข้ามาเล่นในเกมแล้วคุณก็ต้องเคารพกฏกติกาที่วางไว้
แบบอย่างเยาวชน
นักแสดงกับนักฟุตบอลต่างก็เป็นบุคคลสาธารณะที่สามารถมีบทบาทในสังคมได้ เป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนและคนทั่วไปได้ ความรุนแรงจึงไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้ ในกรณีของวิล สมิธเองก็ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ทั้งไทยและต่างประเทศ ถึงแม้ว่าความเห็นส่วนใหญ่ของคนไทยจะโอนเอียงไปทางเข้าใจว่าทำไมวิล สมิธถึงมีการตอบสนองต่อคำพูดของคริส ร็อคแบบนั้นแต่ก็ยอมรับไม่ได้ ความเห็นในโลกออนไลน์ของต่างประเทศกลับแตกต่างกันออกไปโดยจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของน้าวิลอย่างสิ้นเชิงและชื่นชมการรับมือของดาวตลกวัยเก๋าเสียมากกว่า เพราะการรับมือด้วยการไม่ตอบโต้กลับด้วยความรุนแรงและเป็นมืออาชีพของคริส ร็อคนั้นทำให้เหตุการณ์ไม่บานปลายในที่สุด
ไม่ควรใช้ความรุนแรงไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
สุดท้ายนี้ผู้เขียนก็มองว่าไม่ว่าจะเป็นการล้อเลียนเรื่องของรูปร่างหน้าตา เชื้อชาติ เพศ หรือการใช้ความรุนแรงไม่ควรเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมไหนๆในยุคนี้ ผู้คนที่กระทำสิ่งเหล่านี้ควรจะได้รับผลกระทำทางสังคมไม่มากก็น้อย แต่เมื่อทำสิ่งเหล่านั้นไปแล้วไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามแต่ออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการกับสังคมเหมือนที่ วิล สมิธ หรือ อิศเรศ ทำนั้นก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำแต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเหตุความรุนแรงที่ตนเองก่อนั้นจะหายไป
ตารางการแข่งขัน ตารางผลบอล
เต็งแชมป์ EPL
13P
แชร์เนื้อหา
FOLLOW US
POPULAR
“ราฟาแอล วาราน” มาแล้ว “แชมป์” มาได้หรือยัง? | TunGame
อ่านต่อ »จากนักเตะติดสุราจนถึงผู้เล่นระดับตำนาน … เปิดอดีต 6 แข้ง เบอร์ 10 ของอาร์เซน่อล | TunGame
อ่านต่อ »สุดดราม่า! บทวิเคราะห์หลังเกม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | TunGame
อ่านต่อ »ทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำครึ่งฤดูกาลแรก | TunGame
อ่านต่อ »LATEST POST
5 เรื่องไม่น่าเชื่อ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021/22 | TunGame
อ่านต่อ »จาก “ผี” สู่ “หงส์” กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป | TunGame
อ่านต่อ »3 ผู้ตัดสินที่เตรียมแขวนนกหวีดหลังจบพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ | TunGame
อ่านต่อ »วิเคราะห์ผลงานนอกสนามของแมนยู | TunGame
อ่านต่อ »TOPICS
News Update
Commentary
Documentary
Match Analysis
RELATED POST
5 เรื่องไม่น่าเชื่อ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021/22 | TunGame
จาก “ผี” สู่ “หงส์” กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป | TunGame
3 ผู้ตัดสินที่เตรียมแขวนนกหวีดหลังจบพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ | TunGame
วิเคราะห์ผลงานนอกสนามของแมนยู | TunGame