ฟุตบอลไม่ใช่แค่กีฬา … สรุปเหตุการณ์เก็บขวด “น้ำอัดลม” ของ CR7 และผลกระทบที่ตามมา | TunGame

ฟุตบอลไม่ใช่แค่กีฬา… สรุปเหตุการณ์เก็บขวด“น้ำอัดลม” ของ CR7 และผลกระทบที่ตามมา

นอกเหนือจากเรื่องในสนามต่างๆนับตั้งแต่ การดั ดแปลงพันธุกรรมการเล่นของ ทีมชาติอิตาลี (ติดตามเรื่องราวเพิ่มเติมของ ทีมชาติอิตาลีได้ที่นี่) , ฟอร์มการเล่นที่ไฉไลของ ทีมชาติเบลเยียมรวมถึงการขับเคี่ยวแย่งเข้ารอบน็อคเอาท์ในกลุ่มกรุ๊ปออฟเดธที่เป็นที่น่าสนใจในเวที ยูโร 2020 แล้วอีกหนึ่งเรื่องราวที่เป็นกระแสมากๆ ใน ศึกยูโร ครั้งนี้ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของกัปตันทีมชาติโปรตุเกสอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เก็บขวดน้ำอัดลมยี่ห้อดังให้พ้นกล้องและยกขวดน้ำเปล่าออกมาสนับสนุนให้คนดื่มในการแถลงข่าวก่อนเกมส์ที่ทีมของเขาจะพบกับทีมชาติฮังการี ซึ่งการกระทำของดาวเตะวัย 36 ปี ที่ถือเป็นบุคคลทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของโลกได้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งในและนอกวงการฟุตบอล ดังนั้น ทันเกม จึงทำการสรุปผลกระทบที่เกิดจากการเก็บขวดน้ำอัดลมของCR7 ว่า ได้สร้างปรากฏการณ์อะไรต่อจากนั้นบ้าง

ความเห็นที่แตกต่างของเหล่านักบอลและ โค้ช

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการกระทำของดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส ได้เป็นแบบอย่างให้นักเตะหลายๆคนออกมาแสดงจุดยืนหรือแม้กระทั่งความเชื่อของตนเองเรื่มต้นจาก มานู​เอล โลคาเตลลี่มิลฟิลด์เนื้อหอมของทีมชาติอิตาลี ที่ออกมาทำในลักษณะคล้ายๆกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ขยับขวดน้ำอัดลมออกและนำน้ำเปล่ามาวางไว้ตรงหน้าเขาแทนก่อนการแถลงข่าวหลังเกมส์ที่เจ้าตัวทำไป 2 ประตูใส่ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ อีกหนึ่งนักเตะที่แสดงออกในลักษณะเดียวกันก็คือ ปอลป๊อกบา มิลฟิลด์คนดังของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ทีมชาติฝรั่งเศส ที่ในรอบนี้หยิบขวดเบียร์ยี่ห้อดังออกไปจากหน้าของเขาก่อนให้สัมภาษณ์หลังเกมส์ที่ทีมตราไก่ เฉือนชนะ ทีมชาติเยอรมัน เนื่องจากดาวเตะวัย 28 ปี นับถือศาสนาอิสลามและไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

อย่างไรก็ตาม ก็มีนักเตะและโค้ชที่อาจจะเห็นต่างจากกลุ่มนักเตะที่กล่าวมาข้างต้นยกตัวอย่างเช่น ทีมชาติอังกฤษ ที่กุนซือของทีมอย่าง แกเร็ธ เซาท์เกต และกัปตันทีมอย่าง แฮร์รี่ เคน ได้ให้ความเห็นว่า “สปอนเซอร์และเงินของพวกเขาได้ช่วยเหลือกีฬาให้ดำเนินต่อไปได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับรากหญ้าที่ต้องการเงินสนับสนุนในการลงทุนพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆดังนั้น สปอนเซอร์มีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ตราบใดที่พวกเขาจ่ายเงิน” ในขณะเดียวกันนักเตะอย่าง โรเมลู ลูกากู หรือ อันเดร ยาร์โมเลนโก้ ก็มองว่านี่ถือเป็นช่องทางการสร้างรายได้และก็พูดแบบติดตลกว่าแบรนด์เหล่านี้สามารถชักชวนพวกเขาไปร่วมงานด้วยได้

แอ็คชัน จาก ยูฟ่า

หลังจากเหตุการณ์ของโรนัลโด้ ทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ ยูฟ่า ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยโฆษกประจำศึกยูโร 2020 ได้ออกมาชี้แจงว่า“ทางการแข่งขันได้จัดน้ำเปล่ารวมถึงน้ำอัดลมทั้งแบบธรรมดาและไม่มีน้ำตาลให้นักเตะได้เลือกก่อนเข้ามาแถลงข่าวดังนั้นนักฟุตบอลมีสิทธิ์เลือกเครื่องดื่มได้ตามความต้องการ”

ในขณะเดียวกันมาร์ติน คัลเลน ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันศึกยูโร 2020 ก็ได้ออกมาร้องขอให้ผู้เล่นแต่ละทีมให้ความเคารพต่อสปอนเซอร์โดยไม่ทำการขยับเครื่องดื่มที่เป็นผู้สนับสนุนของรายการออกจากโต๊ะแถลงข่าว เพราะรายได้เหล่านี้ถือเป็นรายได้ที่สำคัญสำหรับทัวร์นาเมนต์รวมถึงฟุตบอลยุโรปซึ่งทั้งบริษัทน้ำอัดลมและบริษัทเบียร์ชื่อดังถือเป็น 2 จาก 12 สปอนเซอร์รายใหญ่ของการแข่งขันที่สร้างรายได้ให้กับศึกฟุตบอลยูโร 2020 ถึงประมาณ 2พันล้านยูโร

อย่างไรก็ตามในส่วนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ทางผู้จัดการแข่งขันก็เข้าใจถึงความเชื่อของแต่ละศาสนาและได้แจ้งต่อผู้จัดการฝ่ายสื่อของทั้ง 11 สนามที่เป็นเจ้าภาพในการจัดศึกยูโรครั้งนี้ว่าให้นำเอาขวดเบียร์ออกจากห้องแถลงข่าวก่อนผู้เล่นที่เป็นมุสลิมจะเข้ามาถึง

Post Truth กับ เรื่องราวของหุ้นที่ตกฮวบฮาบ

สื่อกีฬาหลายสำนักได้เล่นข่าวของดาวเตะยูเวนตุส โดยทันทีว่า เหตุการณ์เก็บขวด สะท้านโลก ได้สร้างความเสียหายต่อบริษัทน้ำดำชื่อดังโดยหุ้นของบริษัทฯนั้นดิ่งลงทันที 1.6% จาก 56.1ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 55.2 ดอลลาร์สหรัฐฯนอกจากนี้มูลค่าทางการตลาดของน้ำอัดลมยี่ห้อดังก็ตกลง 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 242 พันล้านเหรียญ เป็น 238 พันล้านเหรียญ

อย่างไรก็ตามนิตยสารชื่อดังอย่างฟอร์บส์ ได้ออกมากล่าวว่า จริงๆแล้วเหตุการณ์เก็บขวดของ โรนัลโด้ ไม่ได้มีผลกระทบต่อหุ้นหรือมูลค่าทางการตลาดของบริษัทดังกล่าวเลยเพราะอันที่จริงตัวเลขทั้งหมดมันตกก่อนหน้าที่กองหน้า ทีมชาติโปรตุเกส หยิบขวดออกซะอีก

ดังนั้นเหตุการณ์นี้ก็ได้จุดประเด็นทางสังคมที่เรียกว่า“Post Truth” ให้ชัดขึ้นอีกครั้งหลังจากคำศัพท์นี้หมายถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นต้องเป็นแบบที่ตนเองคิดไว้แน่ๆโดยไม่ได้ศึกษาถึงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ซึ่งเหตุการณ์ โรนัลโด้ เก็บขวดก็เป็นตัวอย่างของคำว่า “Post Truth” ได้อย่างดีเพราะมีหลายคนที่ตีความเข้าข้างตัวเองว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ต้องเป็นคนทำให้หุ้นน้ำอัดลมยี่ห้อดังตกลงฮวบฮาบอย่างแน่นอนซึ่งอันที่จริงเหตุผลที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงแค่กลไกของตลาดหุ้นเท่านั้น

ทั้งหมดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่แสดงให้เห็นว่าฟุตบอล ไม่ได้เป็นแค่กีฬา และมันก็สามารถสร้างการถกเถียง สร้างแรงกระเพื่อม หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมได้

support

support

แชร์เนื้อหา