จัดทัพ Fantasy Premier League จากฟอร์ม 14 นัดแรก | TunGame

เป็นเวลากว่าเดือนเศษที่ไม่มีการแข่งขัน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ซึ่งเราก็มองว่าผ่านไปแล้ว 14 นัด เริ่มที่จะเห็นทีมแข่งขันแย่งแชมป์และพื้นที่ฟุตบอลยุโรปชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่ามีทีมใดบ้าง แต่แฟน ๆ Fantasy Premier League คงยังไม่ชัดเจนมากนัก ว่า ตัวเองกับเพื่อน ๆ นั้น ใครจะออกมาเหนือกว่าใน ตารางคะแนน วันนี้ ทันเกม อยากจะมาเตือนเพื่อน ๆ ทุกคนว่าอย่าลืมไปจัดตัวกันนะ และ ทันเกม ก็ได้ วิเคราะห์จากข้อมูลในช่วง 14 นัดแรกของฤดูกาลมาให้แล้วว่า ใครบ้างที่เพื่อน ๆ สมควรเอาเข้าสู่ทีม

การพักเบรกเพื่อแข่งขัน ฟุตบอลโลก ทำให้ Fantasy Premier League ให้ผู้เล่นทำการจัดตัวนักเตะในทีมตัวเองได้ใหม่แบบไม่จำกัด เราจะทำการวิเคราะห์ผู้เล่นในทุก ๆ ตำแหน่งตั้งแต่ ผู้รักษาประตู กองหลัง กองกลาง ไปจนถึง กองหน้า โดยจะดูจาก ค่าเฉลี่ยคะแนนต่อมูลค่านักเตะ และคะแนนโดยรวมของนักเตะทั้งหมดว่า เราควรเลือกใครมาเข้าทีมบ้างในงบ 100 ล้านปอนด์ ใครสำควรลงตัวจริง และเราควรจะเล่นแผนอะไร

ผู้รักษาประตู

ถึงแม้ว่า ผู้รักษาประตู ที่ผลิตคะแนนมากที่สุดใน 14 นัดแรกของ พรีเมียร์ลีก คือ นิค โป๊ป และ ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ 70 และ 67 คะแนนตามลำดับ แต่ 13P ขอเลือก แดนนี่ วาร์ด แทน โป๊ป เพราะถึงแม้จะมีคะแนนที่น้อยกว่า แต่ค่าตัวของโกลล์ เลสเตอร์ ซิตี้ นั้นอยู่ที่เพียง 4.1 ล้านปอนด์เท่านั้น ประกอบกับข้อจำกัดของ Fantasy Premier League ที่กำหนดให้มีนักเตะจากทีมเดียวกันได้เพียง 3 คนเท่านั้น ทำให้เราควรตัด นิค โป๊ป ออกจากตัวเลือก เพื่อเปิดทางให้ทั้ง มิเกล อัลมิรอน และ คีแรน ทริปเปียร์ ที่มีคะแนนที่สูงกว่ามากเข้ามาร่วมทีมได้ อีกทั้งยังมี ฟาเบียน แชร์ ที่มีคะแนนไล่เลี่ยกับผู้รักษาประตูชาวอังกฤษแต่มูลค่าต่ำกว่านิดหน่อย อีกทั้งเรายังสามารถใช้น้องดีนเป็นโกลล์ตัวจริงแล้วให้ วาร์ด เป็นสำรองก็ยังได้

กองหลัง

หากเราดูจากนักเตะในแผงรับที่มีคะแนนมากที่สุด 5 อันดับแรกคงไม่ต้องสงสัยว่าเราควรเลือกใครเข้าทีมบ้าง หากแต่เรายังคงต้องคำนึงถึงงบประมาณที่จำกัดที่ 100 ล้านปอนด์ ร่วมกับข้อจำกัดของนักเตะจากสโมสรเดียวกันด้วย ดังนั้น 13P จึงขอเลือกนักเตะมาดังนี้

1. คีแรน ทริปเปียร์ (นิวคาสเซิ่ล 5.9 ล้านปอนด์ คะแนนรวม 96 คะแนน)
2. วิลเลี่ยม ซาลิบา (อาร์เซน่อล 5.3 ล้านปอนด์ คะแนนรวม 74 คะแนน)
3. กาเบรียล มากัลเญส (อาร์เซน่อล 5.2 ล้านปอนด์ คะแนนรวม 72 คะแนน)
4. ฟาเบียน แชร์ (นิวดาสเซิ่ล 4.9 ล้านปอนด์ คะแนนรวม 67 คะแนน)
5. ทิโมธี คาสตาญ (เลสเตอร์ ซิตี้ 4.7 ล้านปอนด์ คะแนนรวม 65 คะแนน)

คะแนนจากตำแหน่งกองหลังโดยมากแล้วจะมาจาก 3 เรื่องด้วยกัน คือ คลีนชีท, การทำประตู, การแอสซิสต์ ซึ่งนั้นเป็นสาเหตุที่ คีแรน ทริปเปียร์ มีคะแนนนำโดดอยู่ในขณะนี้ นั้นเป็นเพราะ นิวคาสเซิ่ล นั้นเพิ่งเสียไปเพียง 11 ประตูเท่านั้นในฤดูกาลนี้ และเขายังคงรับหน้าที่ลูกนิ่งของทีมอีกด้วย ทำให้โอกาสที่เขาจะได้คะแนนนั้นมีสูงมาก ซึ่งเช่นเดียวกับ ฟาเบียน แชร์ ที่เป็นกองหลังตัวจริงในฤดูกาลนี้ของทูนอาร์มี่ ทำให้ 13P เลือกเข้ามาอยู่ที่ อันดับ 4 

อีกหนึ่งทีมที่เพิ่งเสียไปเพียง 11 ลูกเช่นเดียวกันก็คือ อาร์เซน่อล ที่ มิเกล อาร์เตต้า เลือกใช้คู่กองหลังคู่ใหม่อย่าง วิลเลี่ยม ซาลิบา กับ กาเบรียล มากัลเญส ที่ดูจะลงตัวเป็นอย่างมากสามารถเก็บคลีนชีทและทำประตูคู่แข่งได้ด้วยกันทั้งคู่ แต่เราเลือกที่จะไม่เลือก เบ็น ไวท์ เข้ามาสู่ทีมเพราะข้อจำกัดเรื่องของสโมสรเดียวกันของนักเตะ และให้ ทิโมธี คาสตาญ เข้ามาแทนที่ด้วยค่าตัวที่เท่ากัน แต่คะแนนน้อยกว่าเพียง 1 คะแนน ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว 13P จงใจที่จะไม่เลือก เจา กันเซโล่ เนื่องด้วยค่าตัวที่สูงเกินไปที่ 7.4 ล้านปอนด์ และมีคะแนนไม่ห่างจาก แชร์ และ คาสตาญ มากนัก

กองกลาง

ถือเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่แฟน ๆ แฟนตาซี จะต้องปวดหัวเป็นอย่างมากแน่ ๆ เพราะนี่คือตำแหน่งของสุดยอดเครื่องจักรผลิตคะแนนอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ (90 คะแนน) และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (82 คะแนน) ซึ่งทั้ง 2 คนนี้มีคะแนนมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 และ 3 ในตำแหน่งกองกลางเลยทีเดียว แต่ 13P ขอเลือกที่จะตัด 2 คนนี้ออกจากทีมด้วยความที่ค่าตัวแพงเกินไปที่ 12.6 และ 12.8 คะแนน ถ้าเทียบกับคะแนนที่ทำได้ จำทำให้ทั้งคู่มีค่าเฉลี่ยคะแนนต่อค่าตัวอยู่ที่ 7.1 และ 6.4 คะแนนเท่านั้น หากเทียบกับเพื่อนร่วมลีกในตำแหน่งเดียวกันแล้วถือเป็นคะแนนที่ตำเป็นลำดับท้าย ๆ เลยก็ว่าได้ ทำให้เราเลือกนักเตะในตำแหน่งกองกลางดังต่อไปนี้

1. มิเกล อัลมิรอน (นิวคาสเซิ่ล 5.8 ล้านปอนด์ คะแนนรวม 93 คะแนน)
2. เลอันโดร ทรอสซาร์ (ไบรท์ตัน 7.1 ล้านปอนด์ คะแนนรวม 80 คะแนน)
3. มาร์ติน โอเดการ์ด (อาร์เซน่อล 6.4 ล้านปอนด์ คะแนนรวม 77 คะแนน)
4. โรดริโก้ โมเรโน่ (ลีดส์ ยูไนเต็ด 6.3 ล้านปอนด์ คะแนนรวม 77 คะแนน)
5. เจมส์ แมดดิสัน (เลสเตอร์ ซิตี้ 8.2 ล้านปอนด์ คะแนนรวม 77 คะแนน)

สำหรับแฟนบอล พรีเมียร์ลีก คงไม่ต้องเกริ่นอะไรมากถึงความร้อนแรงของ อัลมิรอน และ ทรอสซาร์ ในฤดูกาลนี้ที่เล่นงานคู่แข่งแทบทุกนัด ทั้งยิง ทั้งจ่ายกันแบบอุตลุดเลยทีเดียว มาร์ติน โอเดการ์ด ก็ถือเป็นขาประจำในแดนกลางของเจ้าปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลนี้ อีกทั้งยังสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมอีกด้วยแม้อายุจะเพียง 24 ปีก็ตาม แต่ในรายของ โรดริโก้ นั้นก็ถือว่าฟอร์มแรงไม่น้อย โดยยิงไปแล้วทั้งสิ้น 9 ประตูในพรีเมียร์ลีก ใน 13 นัด ส่วน เจมส์ แมดดิสัน ก็ถูกเลือกเข้ามาจากคะแนนที่สูงเทียบเท่า กาเบรียล มาร์ติเนลี่ แต่ไม่ได้อยู่ อาร์เซน่อล แถมยังคงเป็นเจ้าพ่อลูกนิ่งของทีมอีกด้วย

กองหน้า

หากเราจะวัดผู้เล่นในทุกตำแหน่งแล้ว ผู้เล่นที่ผลิตคะแนนมากที่สุดในฤดูกาลนี้ 2 อันดับแรก คงหนีไม่พ้น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (123 คะแนน) และ แฮรี่ เคน (102 คะแนน) โดยจะเรียกทั้งคู่ว่าเป็นตัวบัคของเกมก็คงไม่แปลก ซึ่งราคาที่เหล่าผู้เล่นต้องจ่ายเพื่อให้ได้สองคนนี้มาก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ เพราะค่าเฉลี่ยคะแนนต่อค่าตัวทั้งคู่อยู่ที่ 10.1 และ 8.8 ตามลำดับซึ่งก็มากกว่าทั้ง โม ซาลาห์ และ เดอ บรอยน์ อยู่ระดับนึงและหาผู้เล่นอื่นมาเทียบยากซะเหลือเกิน จึงไม่แปลกที่เราจะเลือก 2 คนนี้เข้าสู่ทีม

ทีเราจะต้องเลือกอันดับถัดไปก็คือ กองหน้าอีก 1 คน ซึ่งเราก็เลือก อิวาน โทนี่ย์ ที่เป็นกองหน้าที่ทำคะแนนมากที่สุดเป็นอันดับ 3 และทำคะแนนมากที่สุดเป็นอันดับ 7 จากนักเตะทุกตำแหน่ง โดยเขาทำไปแล้วทั้งสิ้น 83 คะแนน นำห่างอันดับ 4 ในตำแหน่งเดียวกัน คือ กาเบรียล เชซุส (69 คะแนน) อยู่ถึง 14 คะแนนด้วยกัน แถมค่าตัวก็ไม่แพงเท่าด้วย

แผน 3-4-3 งบ 99.8 ล้านปอนด์

เราจำเป็นที่จะต้องเลือกนักเตะที่ทำคะแนนได้มากที่สุดก่อน นั้นก็คือนะเตะในตำแหน่งกองหน้าและกองกลาง ซึ่งก็หน้านั้นเลือกได้มากที่สุด 3 คน ส่วนกองหลังอย่างน้อยก็ต้องมี 3 คนตามข้อกำหนดของเกม ทำให้เราจัดทีมได้ดังภาพทางด้านบน โดยใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น 99.8 ล้านปอนด์ มันอาจจะไม่ใช่นักเตะชุดที่ดีที่สุด ตอบโจทย์แฟนได้ทุกทีม โดยคุณอาจจะเลือก เดอ บรอยน์ หรือ โม ซาลาห์ เข้าทีมด้วยก็ได้ แต่ก็อย่าลืมว่าเราก็จำเป็นที่จะต้องสละนักเตะบางรายออกจากทีมไป และ มีนักเตะอีกหลายคนที่ทำคะแนนได้พอ ๆ กับยอดนักเตะ 2 คนนี้แต่ไม่แพงเท่า จะเห็นได้ว่าถึงแม้ว่า 13P จะหายใจเข้าออกเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ก็ไม่มีนักเตะผีแดงสักคนเข้าทีมเลยแม้แต่น้อย นั้นก็เพราะฟอร์มปีนี้ของแมนยูมันยังไม่ดีพอนั้นเอง