ย้อนรอยประวัติการแยกทางของ อันโตนิโอ คอนเต้ | TunGame
ทำท่าจะอยู่ได้ไม่นานอีกแล้วสำหรับอนาคตของ อันโตนิโอ คอนเต้ กับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ หลังมีข่าวลือว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังจะแยกทางกันเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ โดยสาเหตุเกิดจากความไม่ลงรอยในแผนงานการทำทีมระหว่างยอดกุนซือชาวอิตาเลี่ยนกับประธานสโมสรอย่าง ดาเนี่ยล เลวี่ ดังนั้น ในวันนี้ทาง ทันเกม จะพาไปย้อนรอยเรื่องราวการเปลี่ยนทีมคุมของกุนซือผู้ขึ้นชื่อว่า ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ กับทีมในอดีตที่เจ้าตัวเคยกุมบังเหียนว่าสาเหตุของการแยกทางนั้นเกิดจากอะไรบ้าง ใครพร้อมแล้ว มาติดตามอ่านกันได้เลย

ยูเวนตุส (ปี 2014)
หลังจากพาทีมม้าลายประสบความสำเร็จในประเทศด้วยการคว้าสคูเดตโต้ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาล ที่คุมทีม อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ตัดสินใจลาออกจากการกุมบังเหียน ยูเวนตุส แบบดื้อๆในขณะที่ยังเหลือสัญญาอยู่อีก 1 ปี
โดยเรื่องราวของการลาออกเริ่มต้นเมื่อเจ้าตัวออกมาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองกับสโมสรเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2013/2014 และออกมายอมรับแบบตรงไปตรงมาว่าเปิดกว้างกับโปรเจคใหม่ในอนาคต นอกจากนี้เขายังเคยบ่นว่า ยูเวนตุส มีทรัพยากรไม่เพียงพอสำหรับการแข่งขันในเวทีระดับยุโรป (ไปไกลสุดคือเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายใน ชปล. ฤดูกาล 2012/2013)
ท้ายที่สุดทุกอย่างก็ดูประจวบเหมาะกับ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่เริ่มหมดความท้าทายกับทีมม้าลาย เพราะ เซซาเร ปรันเดลลี กุนซือ ทีมชาติอิตาลี ในสมัยนั้นตัดสินใจลาออกหลังพาทีมตกรอบแรกฟุตบอลโลกปี 2014 ซึ่งนั่นทำให้กุนซือไก่เดือยทองคนปัจจุบันไม่รีรอที่จะลาออกจากงานเดิมและเริ่มความท้าทายใหม่ในระดับทีมชาติทันที
ทีมชาติอิตาลี (ปี 2016)
ยังไม่ถึง 2 ปี ดี อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ออกมาประกาศแบบสายฟ้าแลบว่าตนเองจะลงจากการกุมบังเหียนทัพอัซซูรี่หลังจากจบศึก ยูโร 2016 ที่ ฝรั่งเศส โดยให้เหตุผลว่าต้องการกลับไปคุมทีมในระดับสโมสรอีกครั้ง
ซึ่งก่อนหน้านั้นมันก็เคยมีข่าวลือว่าเขาเกือบยื่นหนังสือลาออกจาการคุม ทีมชาติอิตาลี ตั้งแต่ในช่วง 4-5 เดือนแรกเนื่องจากเจ้าตัวคิดว่าไม่ได้รับการสนับสนุนจากสโมสรในศึก กัลโช เซเรีย อา มากพอ
หลังจากพาขุนพลมักกะโรนีไปลุยฟุตบอล ยูโร 2016 และพลาดตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแบบน่าเสียดาย อันโตนิโอ คอนเต้ ก็กลับมารับงานสโมสรแบบที่เขาประกาศไว้โดยสโมสรที่ว่าคือ เชลซี ที่เจ้าตัวตกเป็นข่าวตั้งแต่ยังไม่ประกาศลงจากตำแหน่งกุนซือ ทีมชาติอีตาลี เลยด้วยซ้ำ
เชลซี (ปี 2018)
การแยกทางกันระหว่าง เชลซี กับ อันโตนิโอ คอนเต้ นั้นค่อนข้างจะดุเดือดเลยทีเดียวโดยนอกจากผลงานที่เจ้าตัวพาทีมจบเพียงอันดับ 5 และไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นใน ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ในฤดูกาลที่ 2 ที่เขาคุม พฤติกรรมของกุนซือชาวอิตาเลี่ยนยังถูกบอร์ดบริหารสิงห์ไฮโซมองว่าเป็นการละเมิดสัญญาในฐานะกุนซือของสโมสร
ไล่ตั้งแต่การส่งข้อความผ่านแชทไปบอก ดิเอโก้ คอสต้า ว่าศูนย์หน้าดีกรีทีมชาติสเปน(ในขณะนั้น)จะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของเขา, ไม่รับโทรศัพท์หรือตอบอีเมล์ที่ทางสโมสรส่งไป ซึ่งการกระทำที่เกิดขึ้นของ อันโตนิโอ คอนเต้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของเจ้าตัวที่มีต่อบอร์ดบริหารของ เชลซี ที่ไม่สามารถคว้านักเตะที่ตนเองต้องการอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ เฟอร์นานโด ยอเรนเต้ ได้
ยิ่งไปกว่านั้น กุนซือวัย 53 ปี ยังจัดการฟ้อง เชลซี หลังตัดสินใจปลดเขาก่อนเข้าแคมป์พรีซีซั่นไม่กี่วันโดยกล่าวว่าสโมสรตั้งใจจะกลั่นแกล้งตนเพื่อที่จะทำให้ไม่มีเวลาในการหาสโมสรใหม่เพราะมันใกล้ช่วงเวลาที่ฤดูกาลจะเริ่มต้นแล้วโดยคำพูดของ อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ดูจะมีน้ำหนักเหมือนกันเพราะกว่าจะได้งานใหม่กับ อินเตอร์ มิลาน เขาก็ต้องรอไปอีก 1 ฤดูกาลให้หลัง
อินเตอร์ มิลาน (ปี 2021)
3 อาทิตย์ครึ่งหลังพาทีมงูใหญ่เถลิงบังลังก์แชมป์ กัลโช เซเรีย อา เป็นครั้งที่ 19 และเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ได้ตัดสินใจแยกทางกับ อินเตอร์ มิลาน โดยเจ้าตัวยังเหลือสัญญากับสโมสรอีก 1 ปี
ซึ่งสาเหตุหลักของการแยกทางกันคือการที่บอร์ดบริหารต้องการจะลดภาระค่าใช้จ่ายที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดย สตีเวน จาง ประธานสโมสรขอให้กุนซือที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดของ กัลโช เซเรีย อา ในตอนนั้น (คอนเต้) ลดค่าจ้างลงมา 15-20% รวมถึงยังวางแผนจะขายนักเตะคนสำคัญหลายรายๆ เพื่อเอารายได้มาประคับคองสถานการณ์การเงินของทีม
และแน่นอนมันก็เป็นการขัดต่อเจนตนารมณ์ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ต้องการต่อยอด อินเตอร์ มิลาน จากการเป็นแชมป์ลีกไปสู่การเป็นแชมป์ในเวทียุโรป อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็ไม่ได้ออกมามีปัญหากับต้นสังกัดเหมือนในกรณี เชลซี อีกทั้งยังออกมากล่าวถึง สตีเวน จาง ว่า “ผมไม่อยากมาพูดถึงเรื่องการซื้อขายหรือเรื่องเงินๆทองๆของสโมสร ผมเคารพคุณจางและขอขอบคุณเขาที่ให้โอกาสผมทำงานกับ อินเตอร์ มิลาน ท้ายที่สุดผมรักสโมสรแห่งนี้และอยากอวยพรให้พวกเขาประสบความสำเร็จในอนาคต”

ซาไก
แชร์เนื้อหา