วิเคราะห์หลังเกมสิงโตน้ำเงินครามเชลซะปะทะ เรือใบสำฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ | TunGame

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษคู่บิ๊กแมตช์ระหว่างสิงโตน้ำเงินครามเชลซีกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ถือเป็นแมตช์ที่น่าจับตามองคู่หนึ่งของสัปดาห์เพราะทั้งคู่นั้นล้วนเป็นเต็งลุ้นแชมป์ด้วยกันทั้งสองทีมโดย โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมเจ้าบ้านเชลซีมาในระบบ 3 – 5 – 2 ที่เน้นเกมรับและโต้กลับส่วนทางด้านกุนซือหัวใสของเรือใบสีฟ้าอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่าก็มาในแผนถนัดของตัวเองอย่าง 4 – 2 – 3 – 1 ที่เน้นการครองบอลและค่อยๆบี้เจาะหาช่องเข้าทำประตูถึงแม้ว่าแมนเชสเตอร์ซิตี้จะเฉือนเอาชนะเชลซีไปได้ 0 – 1 แต่ในระหว่างเกมมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายซึ่งจะมีอะไรบ้างวันนี้ทีมงานทันเกมได้วิเคราะห์มาให้แล้ว

ทูเคิ่ลวางหมากมารับแน่นรอสวน

แน่นอนว่าตำแหน่งการยืนของนักเตะตามที่ประกาศรายชื่อผู้เล่นตัวจริงนั้นอาจจะไม่ได้แตกต่างจากเกมอื่นๆมากแต่ในเกมนี้กุนซือชาวเยอรมันเลือกใช้กองกลางสามคนที่มีจุดเด่นในเรื่องของเกมรับและไม่ได้มีจุดเด่นในเรื่องการสร้างสรรค์เกมรุกไม่ว่าจะเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, หรือ มาเตโอ โควาชิชและเลือกที่จะเน้นการลงไปรับต่ำมากๆจนบางจังหวะเรียกได้ว่ามีผู้เล่นของเชลซีอยู่ถึง8 คนในกรอบเขตโทษของตนเองโดยจะอาศัยจังหวะสวนกลับที่ทิ้งทั้ง โรเมลู ลูกากู และ ติโม แวร์เนอร์ไว้ในแดนหน้า

เป๊ปบีบสูงหาช่องบี้ไปเรื่อยๆ

ในขณะที่ เป๊บ กวาดิโอล่า เลือกเล่นในสไตล์ที่ตัวเองถนัดด้วยการดันแผงหลังขึ้นสูงและขึงเกมบุกไว้ที่หน้ากรอบเขตโทษของเชลซีแต่ในวันนี้กุนซือชาวสเปนเลือกใช้ผู้เล่นที่มีจุดเด่นเรื่องการจ่ายบอลตามช่องและมีความสร้างสรรค์มากกว่าผู้เล่นที่มีความเร็วทะลุทะลวงโดยใช้ ฟิล โฟเด้น ค้ำในแดนหน้าและมี กาเบรียล เชซุส, เควิน เดอ บรอยน์ และ แจ็ค กรีลิช คอยปั้นเกมตามช่อง นอกจากนี้เมื่อแมนเชสเตอร์ซิตี้เสียการครองบอลผู้เล่นในแดนหน้าจะบีบเข้าหานักเตะเชลซีทันทีเพื่อให้ออกบอลได้ลำบากอย่างไรก็ตามทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ก็สามารถแก้เพรซได้ไม่ยากเย็นนักในช่วง 20 นาทีแรกของการแข่งขัน

เชลซีไม่เพรสแต่เน้นรับโซนในตำแหน่งตัวเอง

แตกต่างจากเรือใบสีฟ้าที่เลือกกดดันคู่แข่งตั้งแต่แดนหน้า ทูเคิ่ล เลือกที่จะให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ขึ้นเกมจากแดนหลังได้สะดวกและกันไม่ให้ส่งบอลไปถึงแดนหน้าได้อย่างรวดเร็วนัก โดยจะมี ก็องเต้ มาช่วยชะลอเกมบุกของแมนซิตี้เมื่อเชลซีเสียบอลในแดนหน้าเพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นเข้ารับประจำที่

การแก้เกมของขั้นเทพของยอดกุนซือทั้งสอง

ถึงแม้ว่าการบีบหาช่องบี้ของ เป๊ป จะสร้างโอกาสได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถจบสกอร์ได้โดยพวกเขาทำได้เพียงยิงจากนอกกรอบหรือครอสเข้ามาเท่านั้นแต่โชคชะตาก็เริ่มจะเป็นใจเมื่อเริ่มต้นครึ่งหลังไปไม่นานแมนซิตี้ได้ประตูออกนำจากการยิงแฉลบของ กาเบรียล เชซุสส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นโดยกุนซือชาวเยอรมันเลือกที่จะเพิ่มผู้เล่นแนวรุกและถอดผู้เล่นเกมรับออกโดยเปลี่ยนเป็นแผน 3 – 4 – 3 โดยมี ไค ฮาแวร์ทซ์ และ รูเบน ลอฟตัส ชีกลงมาปั้นเกมบุก ในฝั่งของกุนซือชาวสเปนก็เขี้ยวไม่แพ้กัน โดยส่ง ราฮีมสเตอร์ลิ่ง และ ริยาด มาห์เรซ มาเพื่อรอสวนกลับ รวมถึงเปลี่ยนตัว แฟร์นานดินโญ่เพื่อลงมาคุมเกมให้นิ่งขึ้นอีก

บิ๊กตู้ชนะลาปอร์กต์แต่สิงห์เร่งไม่ขึ้น

หลังจากที่สิงห์บลูส์โดนนำไปแล้ว ก็เริ่มขึ้นเกมทางกราบขวามากขึ้น โดยลูกากู จะเจาะใส่ทาง อายเมอริค ลาปอร์กต์ที่วันนี้ยังเหนียวแน่นแม้เสียท่าให้กองหน้าตู้เย็นอย่างชัดเจนถึงสองครั้งก็ตามแต่สุดท้ายแล้วเชลซีก็ยังไม่สามารถเจาะเกมรับของแมนซิตี้ไปได้ทำให้จบเกมเชลซีเสียท่าแพ้คาบ้านให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ไปอย่างสุดมัน 0 – 1 โดยเป็นการพ่ายแพ้ครั้งแรกของทูเคิ่ลต่อเป๊ปในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษอีกด้วย

support

support

แชร์เนื้อหา