ริชาร์ด อาร์โนลด์ กับบทบาทซีอีโอ | TunGame

น้อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นภาพของซีอีโอของสโมสรฟุตบอลมานั่งดื่มเบียร์กับแฟนทีมตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นจุดประสงค์ของแฟนบอลเหล่านี้คือมาหาซีอีโอเพื่อที่จะประท้วงด้วยซ้ำ ริชาร์ด อาร์โนลด์ คือซีอีโอของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กำลังจะโดนประท้วงที่บ้านของตัวเองแต่เขากลับพากลุ่มแฟนบอลเหล่านั้นไปเลี้ยงเครื่องดื่มหรรษาที่บาร์ในเมืองแมนเชสเตอร์แทน ทันเกมจะพาทุกคนไปรู้จักกับชายวัย 51 ปีผู้นี้กันว่าก่อนที่เขาจะมาเป็นซีอีโอให้สโมสรกีฬาที่มูลค่ามากเป็นอันดับต้นๆของโลกได้ เขาทำอะไรมาก่อน

ไม่เคยทำเกี่ยวกับกีฬามาก่อน

ผู้ที่จะกำหนดทิศทางในอนาคตของผีแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเวลานี้คงหนีไม่พ้นซีอีโอของสโมสรอย่าง ริชาร์ด อาร์โนลด์ ชายผู้โดนแฟนบอลตั้งคำถามหลายต่อหลายครั้งว่า “มึงคือใคร?” การที่จะพยายามเสาะหาข้อมูลในโลกออนไลน์นั้นยังยากเลยที่จะไปเจอข้อมูลของบุรุษผู้นี้ แต่ถ้าหากเราย้อนกลับไปดูประวัติทางการศึกษาดีๆ จะเห็นได้เลยว่าเขาคือใครแล้วเขามาเกี่ยวข้องกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้อย่างไรกัน

แท้จริงแล้วอาร์โนลด์กับเอ็ด วู้ดเวิร์ด อดีตซีอีโอของแมนยูนั้นเปนเพื่อนกันสมัยมหาลัยที่มหาวิทยาลัยบริสตัลประเทศอังกฤษ อาร์โนลด์นั้นจบชีววิทยาส่วนเอ็ดนั้นจบฟิสิกส์มา แต่เส้นทางอาชีพของทั้งคู่นั้นคล้ายกันตรงที่ทั้งสองเลือกที่จะไปต่อยอดความรู้ในสายบัญชีและเข้าไปทำงานที่บริษัทบัญชีชื่อดังอย่าง ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ (PwC) แล้วทั้งคู่ก็ได้แยกจากกันโดย วู้ดเวิร์ดได้ไปอยู่กับ เจ พี มอร์แกน บริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแนะนำให้ตระกูลเกลเซอร์เข้าซื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนอาร์โนลด์นั้นไปอยู่กับบริษัทที่เกี่ยวกับโทรคมนาคม 2 – 3 บริษัท

จะเห็นได้ว่าก่อนที่จะมาร่วมงานกับเอ็ด วู้ดเวิร์ดอีกทีที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นเขาไม่ได้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านกีฬามาก่อนเลย ทั้งหมดเป็นงานเรื่องของการเงิน การตลาด และตัวเลขเท่านั้น สิ่งที่เราไม่ได้สามารถพิสูจน์และรู้ได้คือในโลกส่วนตัวของเขานั้น เขาคือแฟนกีฬาของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจริงๆ หรือไม่ 

ดูแต่ผลการเงินของสโมสร

อย่างไรก็ตามเขาก็ได้มาทำงานในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ดในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพาณิชย์ในปี 2007 และได้เลื่อนขั้นมาเรื่อยๆ หลังจากลูกพี่เอ็ดได้เป็นซีอีโอจนก้าวขึ้นมาเป็นกรรมการผู้จัดการในปี 2013 ผลงานของเขานั้นถือว่าทำได้ดีมากๆ ผลประกอบการของสโมสรดีขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ เหมือนอย่างที่ทันเกมเคยได้ทำการวิเคราะห์ไปแล้วว่าถึงแม้ว่าผลงานในสนามจะห่วยสักแค่ไหน แต่ชื่อของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นก็ยังขายได้เสมอจนมีกำไรอู้ฟู่ตลอดที่ผ่านมา

สิ่งที่แฟนบอลสงสัยกลับไม่ใช่เรื่องของความสามารถในการบริหารการเงินของชายวัย 51 ปีผู้นี้ แต่กลับเป็นเรื่องของการตัดสินใจเชิงฟุตบอลว่าเขาจะทำมันได้ดีเพียงไหน เพราะเพื่อนของเขานั้นฝากผลงานเอาไว้ค่อนข้างน่าผิดหวังเลยทีเดียว โดยตั้งแต่เอ็ดเข้ามาบริหารงานนั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลย ไม่แม้แต่จะเข้าใกล้ในเชิงของคะแนนเลยด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำอาร์โนลด์ยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อในยุคของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาด้วยว่าน้าลูกอมนั้นนำความสำเร็จมาให้สโมสรอย่างมากมาย ซึ่งนั้นมันไม่สามารถแปลเป็นความสำเร็จในสนามของสโมสรได้เลยเพราะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดภายใต้การคุมทีมของเพชรฆาตหน้าทารกนั้นคว้ามา 0 แชมป์ด้วยกัน

บทพิสูจน์ว่าของจริงหรือลมปาก

ต่อให้ในอดีตจะพูดว่ายังไง แต่ ณ ปัจจุบัน เขาไม่ได้ทำหน้าที่ดูแค่ยอดรายได้ของสโมสรเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป หน้าที่ของเขาคือการคืนสภาพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้กลับคืนมาในสภาพที่สามารถลุ้นแชมป์ได้ทุกแชมป์ไม่ใช่ลุ้นพื้นที่ยุโรป ทำให้แฟนบอลของสโมสรต่างข้องใจถึงความกระตือรือร้นและทัศนคติการทำงานของเขาว่ามันต่างจากเอ็ด วู้ดเวิร์ดเพื่อนร่วมรุ่นเขาหรือไม่ ตลาดซื้อขายนักเตะเปิดไปแล้วหลายสัปดาห์ คู่แข่งร่วมศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษก็ทยอยกันเปิดตัวนักเตะใหม่เรื่อยๆ แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับทำได้เพียงมีข่าวกับนักเตะมากมายแต่ไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมขึ้นมาเลย แฟนบอลจึงรวมตัวไปเพื่อประท้วงเฮียอาร์โนลด์ที่หน้าบ้านเขากันซะเลย

การรวมตัวประท้วงในครั้งนี้ถึงแม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ก็ทำให้เราได้เห็นถึงทัศนคติของผู้อำนวยการใหญ่ที่มีต่อแฟนบอลทีมตัวเองว่าอยากที่จะเข้าใจและมีสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ซึ่งแตกต่างจากผู้นำคนก่อนหรือเจ้าของสโมสรอย่างสิ้นเชิง (และไม่ต้องนับผู้นำบ้านเราที่เอะอะก็ปรับทัศนคติ) คำพูดของเขากับเหล่าแฟนบอลทำให้เห็นถึงความตั้งใจและเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นของแฟนบอลทีมตัวเอง อย่างไรก็ตามเมื่อตลาดการซื้อขายนักเตะในรอบนี้สิ้นสุดลง เหล่าแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทั่วโลกจะได้รู้กันเลยว่า ริชาร์ด อาร์โนลด์นี่ของจริง หรือแค่ลมปาก