“6 ตำนาน” ตบเท้าเข้าสู่ “หอเกียรติยศ (ฮอลล์ ออฟ เฟม) พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” | TunGame
“พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ได้ประกาศรายชื่อตำนานนักเตะ 6 คนล่าสุด ที่ได้รับเกียรติเข้าสู่ “หอเกียรติยศ (ฮอลล์ ออฟ เฟม) พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ตามหลังตำนาน 10 คนก่อนหน้าที่ได้เข้าสู่ ฮอลล์ ออฟ เฟม ไปก่อนหน้านี้แล้ว
“หอเกียรติยศ (ฮอลล์ ออฟ เฟม) พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” คือทำเนียบรายชื่อเหล่าตำนานผู้เล่นที่เคยโลดแล่นและสร้างผลงานอันโดดเด่นไว้บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยนักเตะเหล่านี้จะถูกเลือกด้วยการคัดเลือกจาก ผู้ทรงคุณวุฒิของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ รวมไปถึงการโหวตของแฟนบอลจากทั่วโลก
โดยล่าสุดทาง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ได้ประกาศรายชื่อนักเตะ 6 คนล่าสุดที่ได้รับเกียรติเข้าสู่ ฮอลล์ ออฟ เฟม นี้แล้ว ทั้ง 6 คนจะเป็นใครกันบ้างและแต่ละคนมีสถิติที่น่าสนใจอะไรบ้าง ร่วมกันติดตามได้ที่นี้แล้ว
1. ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล คือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดตลอดกาลคนนึงของโลกฟุตบอล ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ แต่รวดเร็วและมีปฏิกริยาในการเซฟที่ยอดเยี่ยม โดยช่วงที่เขาโด่งดังที่สุดเป็นช่วงเวลาที่เขาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1991 – 1997
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ลงเล่นบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (นับตั้งแต่ฤดูกาล 1992/1993) ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นจำนวน 242 เกม และช่วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ถึง 5 สมัยจาก 7 ฤดูกาลในเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนที่จะไปเล่นให้ แอสตัน วิลล่า และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมละ 1 ฤดูกาล ในช่วงบั้นปลายอาชีพ
นอกจาก 128 คลีนชีท ที่ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ทำได้จาก 300 เกม (รวมจำนวนนัดที่ลงเล่นให้กับทั้ง 3 ทีม) บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้ว ชไมเคิ่ล ยังถือเป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่สามารถทำประตูได้ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกด้วย โดยประตูที่เขาทำได้เกิดขึ้นในฤดูกาล 2001/2002 ที่เขาเล่นให้กับ แอสตัน วิลล่า
2. เอียน ไรท์
เอียน ไรท์ ถูกดึงมาร่วมทัพ อาร์เซน่อล ในปี 1991 ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติการซื้อนักเตะที่มีราคาสูงที่สุดของสโมสร อาร์เซน่อล ในขณะนั้น
แต่ก็ต้องถือว่าค่าตัวสถิติสโมสรของ เอียน ไรท์ นั้นคุ้มค่าทุกสตางค์ เพราะตลอด 7 ฤดูกาลที่เขาลงเล่นให้กับ อาร์เซน่อล นั้น เขาสามารถทำประตูได้ถึง 185 ประตูจาก 288 นัดที่ลงเล่นในทุกรายการ ซึ่งกลายเป็นสถิติผู้เล่นที่ทำประตูมากที่สุดตลอดกาลของ อาร์เซน่อล ณ ขณะนั้น (ก่อนที่ เธียร์รี่ อองรี จะแซงขึ้นไป)
และในปีสุดท้ายของ เอียน ไรท์ กับ อาร์เซน่อล ในฤดูกาล 1997/1998 เขาก็เป็นส่วนสำคัญที่พา อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เป็นสมัยแรกอีกด้วย
3. พอล สโคลส์
พอล สโคลส์ คืออีกหนึ่งตำนานกองกลางของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คู่ควรกับการเข้าสู่ ฮอลล์ ออฟ เฟม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยทุกประการทั้งปวง
พอล สโคลส์ ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไป 499 นัด (เป็นรองเพียง ไรอัน กิ๊กส์ 642 นัด) และทำประตูใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปถึง 107 ประตู (เป็นรองเพียง เวย์น รูนี่ย์ 183 ประตู และ ไรอัน กิ๊กส์ 114 ประตู) และที่สำคัญที่สุดคือการที่เขาช่วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กวาดแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ถึง 11 สมัย (เป็นรองเพียง ไรอัน กิ๊กส์ 13 สมัย)
พอล สโคลส์ ประกาศแขวนสตั๊ดไปหลังจบฤดูกาล 2011 แต่ด้วยปัญหาขาดแคลนกองกลางจากอาการบาดเจ็บของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2011/2012 บวกกับความคิดถึงการเล่นฟุตบอลของ พอล สโคลส์ ทำให้เขาตัดสินใจกลับมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง และความแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับทีมปีศาจแดงได้อีกเป็นครั้งสุดท้ายในฤดูกาล 2012/2013 และหลังจากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังไม่สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้อีก
4. ดีดิเยร์ ดร็อกบา
ดีดิเยร์ ดร็อกบา คือหนึ่งในนักเตะผู้เปลี่ยนโฉม เชลซี ในยุคของ โรมัน อับราโมวิช และถือเป็นหนึ่งในตำนานกองหน้าของ เชลซี และ พรีเมียร์ลีก อย่างแท้จริง
เจ้าของรางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2 สมัย (ฤดูกาล 2006/2007 และ 2009/2010) ดีดิเยร์ ดร็อกบา คือผู้มีส่วนสำคัญในการพา เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถึง 4 สมัย โดย ดีดิเยร์ ดร็อกบา ทำประตูใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้กับ เชลซี ไป 104 จาก 254 นัดที่ลงเล่น เป็นรองเพียง แฟร้งก์ แลมพาร์ด คนเดียวเท่านั้น
5. แว็งซ็องต์ กอมปานี
แว็งซองต์ กอมปานี คือหนึ่งในผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในยุคการเปลี่ยนถ่ายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากทีมระดับกลาง ๆ กลายเป็นทีมระดับหัวแถวของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แว็งซองต์ กอมปานี ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทั้งหมด 265 เกม จาก 11 ฤดูกาล (2008 – 2019) โดยในฤดูกาลแรกที่เขาได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมเรือใบสีฟ้าในฤดูกาล 2011/2012 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมัยแรกมาครองได้สำเร็จ ก่อนที่ กอมปานี จะมีส่วนในการช่วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้อีก 3 สมัยก่อนจะจากทีมไปในปี 2019
ประตูที่น่าจดจำที่สุดของ แว็งซองต์ กอมปานี บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คงหนีไม่พ้นประตูยิงไกลสุดสวยที่เขายิงใส่ เลสเตอร์ ซิตี้ ในนัดที่ 37 ของฤดูกาล 2018/2019 เพราะนอกจากความสวยของประตูนั้นแล้ว ยังเป็นประตูที่ส่งให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก้าวไปคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ในที่สุด ในฤดูกาลสุดท้ายของ แว็งซองต์ กอมปานี กับทีม
6. เซร์คิโอ กุน อเกวโร่
เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ คือตำนานกองหน้าที่คู่ควรกับ ฮอลล์ ออฟ เฟม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างแท้จริง โดยดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์เล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเวลา 10 ฤดูกาล (2011 – 2021) ทำประตูในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ 184 ประตูจากเพียง 275 เกมที่เขาลงเล่น และที่สำคัญที่สุดคือช่วยพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ถึง 5 สมัย จาก 10 ฤดูกาล ที่เขาอยู่กับทีม
เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ กลายเป็นผู้ครองสถิติผู้เล่นที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษที่สามารถทำประตูใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย
จาก 184 ประตูที่ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ทำได้ในสีเสื้อของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คงไม่มีประตูไหนที่จะสำคัญไปกว่าประตูชัยในนาทีที่ 93.20 เหนือ ควีนส์ ปาร์ก เรนเจอร์ ในเกมสุดท้ายของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2011/2012 ประตูที่ส่งให้พวกเขาคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมัยแรกมาครองได้อย่างดราม่าที่สุดตลอดกาล
10 ตำนานที่เข้าสู่ “หอเกียรติยศ (ฮอลล์ ออฟ เฟม) พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ไปแล้วก่อนหน้านี้
อลัน เชียเรอร์, เธียร์รี่ อองรี, เอริก คันโตน่า, รอย คีน, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เดนนิส เบิร์กแคมป์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เดวิด เบ็คแฮม, เวย์น รูนี่ย์ และ ปาทริก วิเอร่า
จารย์ต้น
แชร์เนื้อหา
