สรุป 5 เรื่องราวที่น่าสนใจของพรีเมียร์ลีกก่อนเปิดฉากฟุตบอลโลก | TunGame

ปิดฉากกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับลีกใหญ่ๆของยุโรปรวมถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่หลีกทางให้กับฟุตบอลโลก 2022 ดังนั้นในวันนี้ ทันเกม จะมาสรุปเรื่องราวน่าสนใจต่างๆของลีกสูงสุดเมืองผู้ดีว่ามีประเด็นไหนที่น่านำมาพูดถึงกันบ้างก่อนทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ กาตาร์ ในช่วง 4 สัปดาห์ต่อจากนี้

ความยอดเยี่ยมของ อาร์เซน่อล

ในที่สุดการทำงานของ มิเกล อาร์เตต้า กับ อาร์เซน่อล ก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่จับต้องได้หลังล้มลุกคลุกคลานมาเป็นเวลา 2 ปีกว่าด้วยผลงานการนำเป็นจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษนำแชมป์เก่าและรองจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิติ้ อยู่ 5 คะแนน นอกจากนี้นี่ยังเป็นครั้งนับตั้งแต่ฤดูกาล 2007/2008 ที่พลพรรคปืนใหญ่จะได้นำเป็นจ่าฝูงในช่วงคริสต์มาส

อย่างไรก็ตามเหล่า เดอะ กันเนอร์ส คงภาวนาให้ทีมรักของพวกเขารักษาฟอร์มการเล่นให้ดีอย่างต่อเนื่องหลังกลับมาจากฟุตบอลโลกเพราะมันก็มีสถิติที่น่ากังวลว่า 5 ครั้งล่าสุดที่ อาร์เซน่อล นำเป็นจ่าฝูงในช่วงวันที่ 25 ธันวาคม (วันคริสต์มาส) พวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เลย โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขาทำได้ต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 1947/1948 เลยทีเดียว (ติดตามปัจจัยที่จะทำให้ อาร์เซน่อล สะดุด เพิ่มเติมได้ที่นี่)

การถล่มประตูกระจุยกระจายของ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์

ในช่วงที่ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ย้ายเข้ามาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิติ้ ใหม่ๆ มันก็มีคนหลายคนแสดงความเคลือบแคลงใจต่อเจ้าตัวว่าจะสามารถเล่นใน พรีเมียร์ลีก ได้หรือไม่และพอยิ่งในเกมส์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ กับ ลิเวอร์พูล ที่ดาวเตะทีมชาตินอร์เวย์พลาดโอกาสทองในการพังประตู ส่วน ดาร์วิน นูนเญซ ดันมาทำประตูได้ก็ยิ่งทำให้แฟนบอลเริ่มสงสัยมากขึ้นว่าเขาจะมีศักยภาพพอในการเล่นในลีกที่ว่าดีที่สุดของโลกหรือไม่ ?

แต่ท้ายที่สุดพอฤดูกาลเริ่มต้นขึ้น เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ก็ได้ทลายทุกข้อสงสัยในตัวและกลายมาเป็นจอมมารบูถล่มประตูอย่างที่ทุกคนเห็นด้วยการซัดไปถึง 18 ประตูจากการลงเล่นในลีก 12 นัด นำโด่งในตำแหน่งดาวซัลโว พร้อมทั้งทำลายสถิติของ พรีเมียร์ลีก มากมาย อย่างเช่นเป็นนักเตะคนแรกที่ซัดแฮตทริก 3 นัดติดต่อกันในเกมส์ในบ้าน, เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงในเกมส์เยือน 4 เกมส์แรกที่ลงเล่น ฯลฯ

ความร้อนแรงของ นิวคาลเซิ่ล ยูไนเต็ด

ในตอนนี้ นอกจากแฟนบอล อาร์เซน่อล ที่จะมีความสุขกับฟอร์มการเล่นของทีมของตนเองแล้ว เหล่า ทูนอาร์มี่ เองก็คงมีความสุขไม่แพ้กันเพราะนับตั้งแต่ได้กลุ่มทุนจากอาหรับเข้ามาเป็นเจ้าของและแต่งตั้งกุนซือหนุ่มอย่าง เอ็ดดี้ ฮาว มาทำหน้าตั้งแต่กลางๆฤดูกาลที่แล้ว ผลงานของ นิวคาลเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ยึดอันดับ 3 ของตาราง พรีเมียร์ลีก รวมถึงต่อกรกับทีมใหญ่ต่างๆ (ยกเว้น อาร์เซน่อล ที่ยังไม่ได้เจอ) ได้อย่างน่าชื่นชม

นอกจากผลงานในสนามที่ยอดเยี่ยมแล้ว การบริหารของกลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียกลุ่มนี้ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาต้องการจะเข้ามาพัฒนาทีมดังจากแดนอีสานทีมนี้ให้กลายเป็นท็อปทีมได้อย่างยั่งยืนในอนาคตจริงๆ ทั้งในเรื่องของการวางรากฐานและการซื้อตัวต่างๆ (ติดตามปัจจัยที่จะทำให้ ทีมสาลิกาดง ประสบความสำเร็จในระยะยาวแบบละเอียดต่อได้ที่นี่) ดังนั้นแฟนบอล นิวคาลเซิ่ล ยูไนเต็ด คงได้ฟินกันต่อไปแบบยาวๆอย่างแน่นอน

การล้างบางที่ เชลซี

นับตั้งแต่ ท็อดด์ โบห์ลี่ เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี แฟนบอลก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐีอเมริกันต้องการปรับเปลี่ยนวิธีการในการดำเนินงานและลบภาพจำของสโมสรภายใต้เจ้าของคนเก่าอย่าง โรมัน อับราโมวิช ไล่ตั้งแต่แยกทางกับ บรูซ บัค ประธานสโมสร, มารีนา กรานอฟสกายา ผู้อำนวยการสโมสร, ปีเตอร์ เช็ก ผู้อำนวยการด้านเทคนิค และคนสุดท้ายที่สร้างข้อน่ากังขามากที่สุดอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือผู้พาสิงห์ไอโซคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

อย่างไรก็ดี ผลลัพธ์ในสนามที่ได้ดันออกมาตรงกันข้ามเพราะช่วงเวลาฮันนีมูนของกุนซือคนใหม่อย่าง แกรแฮม พ็อตเตอร์ ก็ดูจะหมดลงไปแล้วหลังเขาพาทีมแพ้ใน พรีเมียร์ลีก 3 เกมส์ติดก่อนเบรกฟุตบอลโลก ดังนั้นเราก็ต้องมาตามดูว่าโปรเจคของ ท็อดด์ โบห์ลี่ กับ เชลซี จะแสดงให้เห็นทิศทางที่ถูกต้องให้แฟนบอลได้เห็นเมื่อไหร่ ?

ความวุ่นวายระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ชายที่ชื่อว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ถือว่าเป็นเรื่องราวที่กลบกระแสฟุตบอลโลกหรือข่าวชัยชนะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (เกมส์บุกชนะ ฟูแล่ม 0-1) ได้อย่างสนิทเลยทีเดียวหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกมาให้สัมภาษณ์วิพากษ์วิจารณ์สโมสรอย่างรุนแรง โดยถึงแม้เรื่องราวที่สุดยอดนักเตะชาวโปรตุกีสพูดจะมีสิ่งที่แฟนบอลเข้าใจได้อยู่บ้างแต่ถ้าพูดถึงความถูกต้องการให้สัมภาษณ์ออกสื่อว่าร้ายทีมหรือผู้จัดการทีมของตนเองในขณะที่ยังมีสัญญากับสโมสรหรือองค์กรที่ตนเองยังทำงานอยู่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้นเราก็ต้องมาตามดูกันต่อว่าหลังจากจบฟุตบอลโลก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะย้ายไปเล่นให้ทีมไหนในช่วงตลาดเดือนมกราคมเพราะความสัมพันธ์ของเขากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เองได้สะบั้นลงไปแบบไม่เหลือชิ้นดีอย่างแน่นอนแล้ว ในขณะเดียวกัน เอริก เทน ฮาก ก็คงต้องหาวิธีการที่จะเรียกขวัญกำลังใจให้นักเตะของเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้ได้อีกครั้งหลังต้องมาโดนดาวเตะหมายเลข 7 สร้างรอยร้าวขนาดใหญ่ทิ้งไว้