5 เจ้าของสโมสรที่แฟนบอลเกลียด
สัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวการเทคโอเวอร์สโมสรนิวคาลเซิ่ลยูไนเต็ดของกลุ่มทุนจากประเทศซาอุดิอาระเบียได้สร้างความยินดีปรีดาให้กับเหล่า ทูนอาร์มี่ เป็นอย่างมากหลังจากพวกเขาจะได้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดอันยาวนานถึง 14ปี ซึ่งเกิดจากการบริหารทีมอันไม่เข้าท่าของไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสรที่ว่ากันว่าเป็นที่จงเกลียดจงชังของแฟนบอลมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ดังนั้น ทันเกม จะพาไปชมอีก 5 เจ้าของที่แฟนบอลทีมตัวเองไม่ค่อยจะรักซักเท่าไหร่
1.เคนเบสต์: เชลซี (1982-2003)
ก่อนที่เชลซีจะเข้าสู่ยุคของโรมัน อับราโมวิช สโมสรนั้นอยู่ภายใต้การครอบครองของ เคน เบสต์ นักธุรกิจชาวอังกฤษซึ่งอันที่จริงได้เข้ามากอบกู้วิกฤติทางการเงินของทีมหลังซื้อสิงโตน้ำเงินครามในปี1982 ด้วยเงินจำนวนแค่1 ปอนด์และเข้ามาช่วยเคลียร์หนี้จำนวน 1.5 ล้านปอนด์ในสมัยนั้น
อย่างไรก็ตามนั่นก็เหมือนจะเป็นเรื่องเดียวที่เบสต์ ได้สร้างคุณงามความดีไว้ให้กับสโมสรเพราะหลังจากนั้นเขาก็ได้ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยด้วยการเปลี่ยนละแวกสแตมฟอร์ดบริดจ์ ให้กลายเป็นโรงแรมที่ตัวเองใช้อยู่อาศัย, อพาร์ทเมนต์ราคาแพงและช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์สุดหรูหราซึ่งส่งผลให้สโมสรมีหนี้สินพอกพูนถึง 150 ล้านปอนด์ก่อนที่เสี่ยหมีจะเข้ามาเทคโอเวอร์ได้ทันเวลาพอดี
นอกจากนี้ในปี 2002เคน เบสต์ ยังเคยถูกแฟนบอลขู่ที่จะดำเนินคดีทางกฏหมายหลังเไปด่าแฟนบอลทีมตัวเองว่าเป็นพวกปรสิตซึ่งเรื่องราวก็จบด้วยการไกล่เกลี่ยกันนอกศาล
2.ปีเตอร์ริดส์เดล: ลีดส์ ยูไนเต็ด(1997-2003)
ตลอดเวลา 6ปี ทีมยูงทองในยุคของ ริดส์เดลนั้นถือว่าเป็นทีมที่มีช่วงเวลาที่ขึ้นสุดและลงสุดอย่างแท้จริง โดยในช่วงต้นยุค 2000ลีดส์ ยูไนเต็ดถือเป็นทีมที่ก้าวขึ้นมาเป็นหัวแถวของพรีเมียร์ลีกรวมถึงก้าวขึ้นไปสู่รอบรองชนะเลิศของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาล 2000/2001 ด้วยดาวเตะราคาแพงอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์, ร็อบบี้ คีน, มาร์ค วิดูก้า ฯลฯ
แต่ด้วยความมั่นใจของปีเตอร์ ริดส์เดล ที่คิดว่าทีมจะสามารถเข้าไปเล่นในถ้วยบิ๊กเอียร์ในฤดูกาลถัดมาได้อย่างสบายๆก็ทำให้เกิดปัญหาหลังจากที่เขาตัดสินใจกู้เงินจำนวน60 ล้านปอนด์มาหมุนก่อนซึ่งท้ายที่สุดทีมของเขาดันไม่สามารถเข้าไปเล่นในถ้วยใหญ่ของทวีปยุโรปได้ในฤดูกาล 2001/2002ผลลัพธ์ที่ตามมาคือเขาต้องขายสตาร์ดังๆไปจนหมดเกลี้ยงเพื่อมาจ่ายหนี้และทำให้ทีมต้องตกชั้นจากลีกสูงสุดไปในฤดูกาล2003/2004
ถึงแม้ ริดส์เดลจะจากไปแต่การกระทำของเขาก็ยังคงส่งผลกระทบต่อสโมสรโดยในฤดูกาล 2006/2007 ลีดส์ ยูไนเต็ด โดนตัด 10 แต้มก่อนเริ่มฤดูกาลดังกล่าวหลังมีปัญหาเรื่องสภาพการเงินและตกชั้นไปเล่นในลีกวันในฤดูกาลถัดมา
3.ครอบครัวเวนกี้ส์: แบล็คเบิร์นโรเวอร์ส (2010-ปัจจุบัน)
ครอบครัวนักธุรกิจชาวอินเดียเข้ามาซื้อสโมสรในปี2010 พร้อมกับคำมั่นสัญญาว่าจะพาทีมกุหลาบไฟกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งเหมือนในช่วงกลางยุค90 พร้อมจะดึงนักเตะอย่างโรนัลดินโญ่ และ ดิเอโก้ มาราโดน่า มาเป็นผู้จัดการทีม
ถึงแม้ครอบครัวเวนกี้ส์จะปลดแซม อัลลาไดซ์ กุนซือรุ่นเก๋าออกจากทีมจริง แต่พวกเขาดันแต่งตั้งโค้ชทีมชุดใหญ่ที่ถูกมองว่าเป็นเด็กเส้นอย่างสตีฟ คีน ขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แทนแถมยังเอานักวิจารณ์ฟุตบอลชาวมาเลเซียอย่างเช็ปปี้ ซิงค์ มาคุมทางด้านฟุตบอลและการซื้อขายทั้งหมด ซึ่งท้ายที่สุดการตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้สโมสรต้องตกชั้นจากลีกสูงสุดไปในฤดูกาล2011/2012
ซ้ำร้ายไปกว่านั้นผลงานของเจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก1 สมัยก็ยังไม่ดีขึ้นโดยถึงขั้นตกชั้นไปเล่นในลีกวันในปี2017 โดยถึงแม้จะร่วงไปเล่นในลีกอันดับ3 ของอังกฤษเพียงฤดูกาลเดียวแต่ในปัจจุบันพวกเขาก็กลายเป็นแค่ทีมเอาตัวรอดในเดอะ แชมป์เปี้ยนชิพเท่านั้น
4.ทอมฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์: ลิเวอร์พูล(2007-2010)
เหล่า เดอะค็อป ส่วนใหญ่คงต่างอยากลืมช่วงเวลาอันเลวร้ายในช่วงที่ 2 ดูโอ้นักธุรกิจจากเมืองบอสตันเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรโดยพวกเขาดูจะไม่เข้าใจวิธีการบริหารทีมฟุตบอลเลยในตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปีที่อยู่กับลิเวอร์พูล
เริ่มตั้งแต่ในแง่ของฟุตบอลที่ไม่มีการลงทุนมากพอซึ่งทำให้กุนซือผู้นำทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างราฟาเอล เบนิเตซ แยกทางกับสโมสรไป นอกจากนี้การแต่งตั้ง รอยฮ็อดจ์สัน เข้ามาแทนที่ เอล ราฟา ก็ดูเหมือนเป็นการตัดสินใจที่ทำให้ผลงานในสนามของลิเวอร์พูล ช่วงนั้นถอยหลังลงคลองเข้าไปอีก
ในขณะที่เรื่องนอกสนามดูจะย่ำแย่ไม่แพ้กันโดยทั้ง2 คนนำหนี้สินเข้ามาสู่สโมสรอย่างมากมายจนกระทั่งถูกศาลสูงสุดตัดสินให้ทั้งคู่ออกจากการเป็นเจ้าของสโมสรลิเวอร์พูลในปี2010 หลังถูกพิจารณาว่าเป็นบุคคลไม่น่าเชื่อถือจากรณีที่พวกเขาไปกู้ยืมเงินมาจากธนาคารแห่งชาติสกอตแลนด์
5.ครอบครัวเกลเซอร์: แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (2005-ปัจจุบัน)
ว่ากันว่าเจ้าของทีมชาวอเมริกันครอบครัวนี้ใช้ประโยชน์จากการเป็นเจ้าของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งในเกาะอังกฤษเป็นเวลามากกว่าทศวรรษแล้วด้วยการใช้รายได้ที่ได้จากสโมสรมาจัดการหนี้สิ้นที่ตัวเองมีซึ่งถูกคาดการณ์ว่าใช้ไปแล้วมากกว่า1 พันล้านปอนด์นับตั้งแต่มีการเทคโอเวอร์
นอกจากนี้ถึงแม้ในยุคของพวกเขาจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไป5 สมัยรวมถึงแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีก 1 สมัยแต่นั่นก็เกิดจากการคุมทีมของยอดกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันซึ่งหลังจากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็กลายเป็นเพียงแค่ทีมที่ลุ้นไปเล่นถ้วยบิ๊กเอียร์และความสำเร็จเล็กๆน้อยๆในแต่ละฤดูกาลแค่นั้นเอง
ท้ายที่สุดการบริหารงานของตระกูลเกลเซอร์ก็ส่งผลให้เหล่าเร้ด อาร์มี่ ตั้งแคมเปญขับไล่ครอบครัวนี้ขึ้นภายใต้ชื่อ “Love United,Hate Glazer” นอกจากนี้ยังมีแฟนบอลบางส่วนถึงขั้นไปจัดตั้งทีมใหม่ที่ชื่อยูไนเต็ด ออฟ แมนเชสเตอร์ ขึ้นมาเพื่อเป็นการต่อต้านโลกฟุตบอลสมัยใหม่
5 เจ้าของสโมสรที่แฟนบอลเกลียด | TunGame
5 เจ้าของสโมสรที่แฟนบอลเกลียด
สัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวการเทคโอเวอร์สโมสรนิวคาลเซิ่ลยูไนเต็ดของกลุ่มทุนจากประเทศซาอุดิอาระเบียได้สร้างความยินดีปรีดาให้กับเหล่า ทูนอาร์มี่ เป็นอย่างมากหลังจากพวกเขาจะได้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดอันยาวนานถึง 14ปี ซึ่งเกิดจากการบริหารทีมอันไม่เข้าท่าของไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสรที่ว่ากันว่าเป็นที่จงเกลียดจงชังของแฟนบอลมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ดังนั้น ทันเกม จะพาไปชมอีก 5 เจ้าของที่แฟนบอลทีมตัวเองไม่ค่อยจะรักซักเท่าไหร่
1.เคนเบสต์: เชลซี (1982-2003)
ก่อนที่เชลซีจะเข้าสู่ยุคของโรมัน อับราโมวิช สโมสรนั้นอยู่ภายใต้การครอบครองของ เคน เบสต์ นักธุรกิจชาวอังกฤษซึ่งอันที่จริงได้เข้ามากอบกู้วิกฤติทางการเงินของทีมหลังซื้อสิงโตน้ำเงินครามในปี1982 ด้วยเงินจำนวนแค่1 ปอนด์และเข้ามาช่วยเคลียร์หนี้จำนวน 1.5 ล้านปอนด์ในสมัยนั้น
อย่างไรก็ตามนั่นก็เหมือนจะเป็นเรื่องเดียวที่เบสต์ ได้สร้างคุณงามความดีไว้ให้กับสโมสรเพราะหลังจากนั้นเขาก็ได้ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยด้วยการเปลี่ยนละแวกสแตมฟอร์ดบริดจ์ ให้กลายเป็นโรงแรมที่ตัวเองใช้อยู่อาศัย, อพาร์ทเมนต์ราคาแพงและช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์สุดหรูหราซึ่งส่งผลให้สโมสรมีหนี้สินพอกพูนถึง 150 ล้านปอนด์ก่อนที่เสี่ยหมีจะเข้ามาเทคโอเวอร์ได้ทันเวลาพอดี
นอกจากนี้ในปี 2002เคน เบสต์ ยังเคยถูกแฟนบอลขู่ที่จะดำเนินคดีทางกฏหมายหลังเไปด่าแฟนบอลทีมตัวเองว่าเป็นพวกปรสิตซึ่งเรื่องราวก็จบด้วยการไกล่เกลี่ยกันนอกศาล
2.ปีเตอร์ริดส์เดล: ลีดส์ ยูไนเต็ด(1997-2003)
ตลอดเวลา 6ปี ทีมยูงทองในยุคของ ริดส์เดลนั้นถือว่าเป็นทีมที่มีช่วงเวลาที่ขึ้นสุดและลงสุดอย่างแท้จริง โดยในช่วงต้นยุค 2000ลีดส์ ยูไนเต็ดถือเป็นทีมที่ก้าวขึ้นมาเป็นหัวแถวของพรีเมียร์ลีกรวมถึงก้าวขึ้นไปสู่รอบรองชนะเลิศของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาล 2000/2001 ด้วยดาวเตะราคาแพงอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์, ร็อบบี้ คีน, มาร์ค วิดูก้า ฯลฯ
แต่ด้วยความมั่นใจของปีเตอร์ ริดส์เดล ที่คิดว่าทีมจะสามารถเข้าไปเล่นในถ้วยบิ๊กเอียร์ในฤดูกาลถัดมาได้อย่างสบายๆก็ทำให้เกิดปัญหาหลังจากที่เขาตัดสินใจกู้เงินจำนวน60 ล้านปอนด์มาหมุนก่อนซึ่งท้ายที่สุดทีมของเขาดันไม่สามารถเข้าไปเล่นในถ้วยใหญ่ของทวีปยุโรปได้ในฤดูกาล 2001/2002ผลลัพธ์ที่ตามมาคือเขาต้องขายสตาร์ดังๆไปจนหมดเกลี้ยงเพื่อมาจ่ายหนี้และทำให้ทีมต้องตกชั้นจากลีกสูงสุดไปในฤดูกาล2003/2004
ถึงแม้ ริดส์เดลจะจากไปแต่การกระทำของเขาก็ยังคงส่งผลกระทบต่อสโมสรโดยในฤดูกาล 2006/2007 ลีดส์ ยูไนเต็ด โดนตัด 10 แต้มก่อนเริ่มฤดูกาลดังกล่าวหลังมีปัญหาเรื่องสภาพการเงินและตกชั้นไปเล่นในลีกวันในฤดูกาลถัดมา
3.ครอบครัวเวนกี้ส์: แบล็คเบิร์นโรเวอร์ส (2010-ปัจจุบัน)
ครอบครัวนักธุรกิจชาวอินเดียเข้ามาซื้อสโมสรในปี2010 พร้อมกับคำมั่นสัญญาว่าจะพาทีมกุหลาบไฟกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งเหมือนในช่วงกลางยุค90 พร้อมจะดึงนักเตะอย่างโรนัลดินโญ่ และ ดิเอโก้ มาราโดน่า มาเป็นผู้จัดการทีม
ถึงแม้ครอบครัวเวนกี้ส์จะปลดแซม อัลลาไดซ์ กุนซือรุ่นเก๋าออกจากทีมจริง แต่พวกเขาดันแต่งตั้งโค้ชทีมชุดใหญ่ที่ถูกมองว่าเป็นเด็กเส้นอย่างสตีฟ คีน ขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แทนแถมยังเอานักวิจารณ์ฟุตบอลชาวมาเลเซียอย่างเช็ปปี้ ซิงค์ มาคุมทางด้านฟุตบอลและการซื้อขายทั้งหมด ซึ่งท้ายที่สุดการตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้สโมสรต้องตกชั้นจากลีกสูงสุดไปในฤดูกาล2011/2012
ซ้ำร้ายไปกว่านั้นผลงานของเจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก1 สมัยก็ยังไม่ดีขึ้นโดยถึงขั้นตกชั้นไปเล่นในลีกวันในปี2017 โดยถึงแม้จะร่วงไปเล่นในลีกอันดับ3 ของอังกฤษเพียงฤดูกาลเดียวแต่ในปัจจุบันพวกเขาก็กลายเป็นแค่ทีมเอาตัวรอดในเดอะ แชมป์เปี้ยนชิพเท่านั้น
4.ทอมฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์: ลิเวอร์พูล(2007-2010)
เหล่า เดอะค็อป ส่วนใหญ่คงต่างอยากลืมช่วงเวลาอันเลวร้ายในช่วงที่ 2 ดูโอ้นักธุรกิจจากเมืองบอสตันเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรโดยพวกเขาดูจะไม่เข้าใจวิธีการบริหารทีมฟุตบอลเลยในตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปีที่อยู่กับลิเวอร์พูล
เริ่มตั้งแต่ในแง่ของฟุตบอลที่ไม่มีการลงทุนมากพอซึ่งทำให้กุนซือผู้นำทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างราฟาเอล เบนิเตซ แยกทางกับสโมสรไป นอกจากนี้การแต่งตั้ง รอยฮ็อดจ์สัน เข้ามาแทนที่ เอล ราฟา ก็ดูเหมือนเป็นการตัดสินใจที่ทำให้ผลงานในสนามของลิเวอร์พูล ช่วงนั้นถอยหลังลงคลองเข้าไปอีก
ในขณะที่เรื่องนอกสนามดูจะย่ำแย่ไม่แพ้กันโดยทั้ง2 คนนำหนี้สินเข้ามาสู่สโมสรอย่างมากมายจนกระทั่งถูกศาลสูงสุดตัดสินให้ทั้งคู่ออกจากการเป็นเจ้าของสโมสรลิเวอร์พูลในปี2010 หลังถูกพิจารณาว่าเป็นบุคคลไม่น่าเชื่อถือจากรณีที่พวกเขาไปกู้ยืมเงินมาจากธนาคารแห่งชาติสกอตแลนด์
5.ครอบครัวเกลเซอร์: แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (2005-ปัจจุบัน)
ว่ากันว่าเจ้าของทีมชาวอเมริกันครอบครัวนี้ใช้ประโยชน์จากการเป็นเจ้าของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งในเกาะอังกฤษเป็นเวลามากกว่าทศวรรษแล้วด้วยการใช้รายได้ที่ได้จากสโมสรมาจัดการหนี้สิ้นที่ตัวเองมีซึ่งถูกคาดการณ์ว่าใช้ไปแล้วมากกว่า1 พันล้านปอนด์นับตั้งแต่มีการเทคโอเวอร์
นอกจากนี้ถึงแม้ในยุคของพวกเขาจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไป5 สมัยรวมถึงแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีก 1 สมัยแต่นั่นก็เกิดจากการคุมทีมของยอดกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันซึ่งหลังจากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็กลายเป็นเพียงแค่ทีมที่ลุ้นไปเล่นถ้วยบิ๊กเอียร์และความสำเร็จเล็กๆน้อยๆในแต่ละฤดูกาลแค่นั้นเอง
ท้ายที่สุดการบริหารงานของตระกูลเกลเซอร์ก็ส่งผลให้เหล่าเร้ด อาร์มี่ ตั้งแคมเปญขับไล่ครอบครัวนี้ขึ้นภายใต้ชื่อ “Love United,Hate Glazer” นอกจากนี้ยังมีแฟนบอลบางส่วนถึงขั้นไปจัดตั้งทีมใหม่ที่ชื่อยูไนเต็ด ออฟ แมนเชสเตอร์ ขึ้นมาเพื่อเป็นการต่อต้านโลกฟุตบอลสมัยใหม่
support
แชร์เนื้อหา
FOLLOW US
POPULAR
ราฟาแอล วาราน มาแล้ว แชมป์ มาได้หรือยัง? | TunGame
อ่านต่อ »จากนักเตะติดสุราจนถึงผู้เล่นระดับตำนาน … เปิดอดีต 6 แข้ง เบอร์ 10 ของอาร์เซน่อล | TunGame
อ่านต่อ »สุดดราม่า! บทวิเคราะห์หลังเกม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | TunGame
อ่านต่อ »ทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำครึ่งฤดูกาลแรก | TunGame
อ่านต่อ »LATEST POST
พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝ่า 2 เดือนอำมะหิตแต่จบด้วย แชมป์ | TunGame
อ่านต่อ »บทสัมภาษณ์แฟนปีศาจแดง | TunGame
อ่านต่อ »ถึงเวลาแล้วที่เชลซีต้องแยกทางกับเมสัน เมาท์ | TunGame
อ่านต่อ »ใครจะมาคุมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในฤดูกาลหน้า? | TunGame
อ่านต่อ »TOPICS
News Update
Commentary
Documentary
Match Analysis
RELATED POST
พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝ่า 2 เดือนอำมะหิตแต่จบด้วย แชมป์ | TunGame
บทสัมภาษณ์แฟนปีศาจแดง | TunGame
ถึงเวลาแล้วที่เชลซีต้องแยกทางกับเมสัน เมาท์ | TunGame
ใครจะมาคุมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในฤดูกาลหน้า? | TunGame