4 เรื่องน่าติดตามประจำศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2021/2022 | TunGame

4 เรื่องน่าติดตามประจำศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล2021/2022

อีกไม่ถึง 1สัปดาห์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษก็ได้ฤกษ์กลับมาฟาดแข้งอีกครั้งโดยคู่เปิดหัวจะเป็นการปะทะกันระหว่างอาร์เซน่อล ที่จะเปิด เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ต้อนรับน้องใหม่อย่าง เบรนท์ฟอร์ดในค่ำคืนวันศุกร์นี้ ดังนั้นเพื่อเป็นการโหมโรงก่อนลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกจะทำการแข่งขันทันเกมจะพาไปพูดถึง 4 เรื่องราวที่แฟนบอลต้องติดตามตลอดฤดูกาลใหม่ที่กำลังมาถึง

การขับเคี่ยวของ 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์

ต้องยอมรับว่าฤดูกาลที่ผ่านมาแมนเชสเตอร์ ซิติ้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่าถือเป็นทีมที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและสร้างช่องว่างระหว่างพวกเขากับทีมอื่นไว้พอสมควรอย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ รองแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดดูจะเป็นทีมที่แสดงความมุ่งมั่นในการขึ้นมาทาบรัศมีของทีมเรือใบสีฟ้ามากที่สุด

ซึ่งทีมปีศาจแดงถือเป็นทีมที่เสริมทัพได้ตื่นตาตื่นใจที่สุดของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ด้วยการคว้าตัวทั้งเจดอน ซานโช่ และ ราฟาเอล วาราน เพื่อมาลบจุดอ่อนของทีมในตำแหน่งปีกขวาและเซ็นเตอร์ฮาล์ฟดังนั้นเราต้องมาตามดูว่าลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะสามารถลดช่องว่าง12 คะแนนที่พวกเขาตามแมนเชสเตอร์ ซิติ้ ในฤดูกาลที่ผ่านมาได้มากน้อยขนาดไหน

ในขณะเดียวกัน ถึงแม้เรือใบสีฟ้ามีท่าทีว่าจะต้องประสบปัญหากับเรื่องกองหน้าตัวเป้าหลังเซอร์คิโอ กุน อเกวโร่ ย้ายออกจากทีม และการไล่ล่าตัว แฮร์รี่ เคนดูจะเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที แต่การเซ็นต์สัญญาคว้าตัว แจ็ค กรีลิช เข้ามายังถิ่นเอติฮัดสเตเดี้ยมก็ยังถือเป็นการเสริมทัพที่น่ากลัวสำหรับทีมอื่นอยู่ดีซึ่งมันก็น่าติดตามว่ากุนซืออัจฉริยะอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่าจะใช้วิธีการเล่นแบบไหนเพื่อป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกและไล่ล่าถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

การเริ่มต้นใหม่ของท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ส

ตั้งแต่ก้าวไปถึงจุดสูงสุดในฤดูกาล2018/2019ที่พวกเขาทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกการเดินทางของสโมสรไก่เดือยทองก็ดูจะดร็อปลงอย่างต่อเนื่องไล่ตั้งแต่การแยกทางกับกุนซือคนเก่งอย่างเมาริซิโอโปเช็ตติโน่ต่อด้วยการไล่ โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือคนดังออกจากตำแหน่งหลังจากแท็คติกของกุนซือโปรตุกีสดูจะล้าสมัยไปแล้วและนั่นก็ส่งผลให้ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ส จบอันดับ 7 ในฤดูกาลที่ผ่านมาซึ่งเป็นอันดับที่ต่ำที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่ฤดูกาล2008/2009

หลังจากใช้เวลาอยู่นานในการเฟ้นหากุนซือคนใหม่แดเนี่ยล เลวี่ ประธานเขี้ยวลากดิน ก็ได้เลือก นูโน่ เอสปิริโต้ซานโต อดีตผู้จัดการทีมของวูล์ฟแฮมป์ตันฯมาทำหน้าที่กอบกู้สถานการณ์ของสโมสรหลังจากที่อดีตกุนซือบาเลนเซีย และ เอฟซี ปอร์โต้ มีผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่พาทีมหมาป่าเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก

อย่างไรก็ตามงานในถิ่นท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ส สเตเดี้ยม คงเป็นงานที่ท้าทายมากกว่างานที่มิดแลนด์อย่างแน่นอนไล่ตั้งแต่การจัดการปัญหาที่คาราคาซังของ แฮร์รี่ เคน ,การจัดการแผงเกมส์รับที่ดูหละหลวมในช่วงหลัง รวมถึงภารกิจพาสโมสรไล่ล่าหาความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมหลังจากไร้ถ้วยแชมป์มาตั้งแต่ปี2008

ดังนั้นมันก็คงเป็นหน้าที่ของนูโน่ฯ และผู้อำนวยการสโมสรคนใหม่อย่างฟาบิโอ ปาราติชี่ ที่จะต้องผนึกกำลังร่วมมือกันในการพา ท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ส ให้กลับมาอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องอีกครั้งเริ่มต้นจากฤดูกาลที่กำลังมาถึงนี้

ผู้ท้าชิงท็อปซิกซ์

เป็นที่รู้ๆกันว่าพรีเมียร์ลีกในช่วงหลังทีมระดับกลางหลายทีมได้เข้ามาท้าทายแย่งตำแหน่งและทำผลงานได้คู่ขี้สูสีกับทีมที่อยู่ในกลุ่มท็อปซิกซ์มากขึ้นเรื่อยๆซึ่งในฤดูกาลนี้เราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของทีมเหล่านี้และส่งผลให้การช่วงชิงพื้นที่กลุ่มมหาอำนาจในฟุตบอลอังกฤษมีความเข้มข้นสูงขึ้น

เริ่มต้นจากเจ้าของโล่การกุศลปีล่าสุดอย่างจิ้งจอกสยามเลสเตอร์ ซิติ้ ที่มุ่งมั่นว่าต้องเข้าไปเล่นในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้หลังพลาดไปแบบฉิวเฉียดใน2 ฤดูกาลล่าสุดจัดการเสริมทัพที่เข้าเป้าไม่ว่าจะเป็น ไรอัน เบอร์ทรานด์ที่เข้ามาเสริมเก๋าในตำแหน่งแบ็คซ้าย,บูบาการี่ซูมาเร่ กองกลางชุดแชมป์ลีกเอิงจากลีลล์ และ แพตสันดาก้า กองหน้าผู้ซัดไปทั้งสิ้น 34 ประตูจากการลงเล่น42 นัด ในฤดูกาลที่ผ่านมาเพื่อเข้ามาทดแทนเจมี่ วาร์ดี้ ที่มีอายุ 34 ปีเข้าไปแล้ว

ต่อด้วยสิงห์ (พร้อม) ผงาดแอสตัน วิลล่า ที่ซื้อตัวทดแทนการจากไปของซุปเซอร์สตาร์อย่าง แจ็ค กรีลิชได้อย่างโดนใจแฟนบอลสุดๆ ไล่ตั้งแต่ เอมิเลียโน่บูเอนเดีย เพลยเมกเกอร์จาก นอริช ซิติ้, ลีออน ไบลี่ย์ จรวดทางเรียบของ ไบเออร์เลเวอร์คูเซ่น และ แดนนี่ อิงส์ ดาวซัลโวจากสโมสร เซาธ์แฮมป์ตัน

ปิดท้ายด้วยสโมสรท็อฟฟี่สีน้ำเงินอย่าง เอฟเวอร์ตัน ที่ถึงแม้จะไม่ได้เสริมทัพอะไรหวือหวา แต่การได้กุนซือมากประสบการณ์อย่างราฟาเอล เบนิเตซ เข้ามากุมบังเหียนในถิ่น กูดิสัน พาร์ค ก็น่าจะทำให้สโมสรไม่ได้รับผลกระทบจากการจากไปของกุนซือคนก่อนหน้าอย่างคาร์โล อันเชล็อตติ มากนัก

หน้าใหม่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก

เป็นเรื่องน่ายินดีของแฟนบอลที่จะได้ต้อนรับทีมที่50 ที่จะลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกนั่นก็คือสโมสรเบรนท์ฟอร์ดที่เลื่อนชั้นขึ้นมาด้วยการเอาชนะ สวอนซี ซิติ้ ในรอบเพลย์ออฟของศึกเดอะแชมเปี้ยนชิพ และถือเป็นครั้งแรกนับตั้งต่ปี 1947 ที่สโมสรสามารถขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดของประเทศได้

โดยสตาร์คนดังของเดอะบีส์ คือ อีวาน โทนี่ย์ อดีตเด็กฝึกหัดของสโมสรนิวคาลเซี่ล ยูไนเต็ด ที่ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขาเป็นดาวซัลโวของลีกเดอะแชมเปี้ยนชิพ ด้วยการตะบันไปทั้งสิ้น 31 ประตูพ่วงด้วยการทำแอสซิสต์ไปถึง 10 ครั้ง นอกจากนี้เบรนฟอร์ดยังจ่ายเงิน 13.5 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นสถิติสโมสรในการคว้าตัวปราการหลังของกลาสโกว์ เซลติกอย่าง คริสตอฟเฟอร์อาเยอร์ เพิ่อมาเสริมแกร่งในเกมส์รับพร้อมต่อสู้ในฤดูกาลใหม่

ดังนั้นเราคงต้องมาตามดูกันต่อว่าลูกทีมของกุนซือโธมัส แฟร้งค์ จะสามารถสร้างผลงานน่าประทับใจในการผจญภัยในศึกพรีเมียร์ลีกครั้งแรกได้หรือไม่หรือจะเป็นแค่ทีมที่ผ่านมา ผ่านไป ให้แฟนบอลแซวเล่นกัน ฤดูกาลนี้จะเป็นคนให้คำตอบ

support

support

แชร์เนื้อหา