3 เหตุผล มาร์คัส แรชฟอร์ด ฟอร์มโหด | TunGame

เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในวงการฟุตบอลโลกตอนนี้เลยก็ว่าได้สำหรับ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลังกลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูได้มากที่สุดจากการซัดไปทั้งสิ้น 16 ประตูจาก 17 นัด นับตั้งแต่ฟุตบอลโลกปิดฉากลง (3 ประสานมหาประลัยจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ยังยิงได้น้อยกว่า 1 ประตู) ดังนั้นในวันนี้ ทันเกม จะพาไปเจาะลึกถึง 3 สาเหตุที่ทำให้ดาวเตะจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีฤดูกาลที่ว่ากันว่าดีที่สุดสำหรับเจ้าตัวหลังจากขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรเมื่อ 7 ปีที่แล้ว

สลัดปัญหาอาการบาดเจ็บและฟิตเต็มร้อย

นับตั้งแต่ โอเล่ กุนน่าร์ โซลชา ขึ้นมากุมบังเหียนทีมปีศาจแดง มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ถูกตะบี้ตะบันใช้งานมาโดยตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาล 2020/2021 ดาวเตะเบอร์ 10 ต้องลงเล่นไปทั้งหมด 65 นัดให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ทีมชาติอังกฤษ ซึ่งท้ายที่สุดเจ้าตัวก็ออกมาเปิดเผยว่าได้ฝืนลงเล่นในฤดูกาลนั้นมาตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น (ปลายเดือนกันยายนปี 2020) และอาการที่ไหล่ด้านขวาก็ทวีคูณความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อฤดูกาลดำเนินไป ดังนั้นถึงแม้เจ้าตัวจะเข้ารับการผ่าตัดไหล่หลังจบศึกยูโรกับทีมสิงโตคำรามและพักฟื้นเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่สะสมมามากกว่า 2 ปี นั้นก็เป็น 1 ในสาเหตุทำให้ฟอร์มของเขาดร็อปลงไปในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าตัวได้มีโอกาสพักฟื้นและมีเวลาได้เรียกสภาพความฟิตของตนเองแบบเต็มที่ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2022/2023 มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็สามารถกลับมาแสดงฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อีกครั้งโดยเขาก็ยอมรับเองว่าการได้พักผ่อนแบบเต็มๆและปิดโหมดฟุตบอลไปเลยในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาทำให้เขากลับมาเข้าแคมป์พรีซีซั่นด้วยสภาพที่สดชื่นและพร้อมซ้อมแบบสุดๆ  

ไม่มีเรื่องนอกสนามมาทำให้ไขว้เขว

ถ้าเราได้ดูจากตามหน้าสื่อช่วงที่ผ่านมา นักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดูจะสนิทสนมมากสุดก็คือ เจสซี่ ลินการ์ด ซึ่งแฟนบอลอย่างเราๆคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าดาวเตะบีนส์ บีนส์ บีนส์ ดูจะให้ความสำคัญกับโลกโซเชี่ยลมากกว่าอาชีพการค้าแข้งของตนเอง ดังนั้นด้วยอิทธิพลของแข้งสายแดนซ์อาจทำให้ดาวเตะวัย 25 ปี (แรชฟอร์ด) หลุดโฟกัสกับฟุตบอลไปบ้างเพราะในอดีตเราคงเห็นว่าคอนเท้นท์บนโลกโซเชี่ยลของ เจสซี่ ลินการ์ด หลายๆครั้งจะมีรุ่นน้องคนสนิทไปโผล่ให้เห็นอยู่บ่อยๆ

อย่างไรก็ดี สมาธิของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ดูจะกลับมามุ่งมั่นที่ฟุตบอลอีกครั้งหลัง เจสซี่ ลินการ์ด ย้ายไปอยู่กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ โดย เอริค เทน ฮาก เคยให้สัมภาษณเมื่อเดือนธันวาคมถึงความมุ่งมั่นของดาวเตะรายนี้ว่า “มาร์คัส (แรชฟอร์ด) เป็นคนที่ทุ่มเทกับการซ้อมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้หลังจากจบการซ้อมในทุกเซสชัน เขาจะฝึกซ้อมการยิงของตนเองอยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นจากเท้าขวา เท้าซ้าย และ ลูกโหม่ง” ซึ่งในที่สุดผลจากความมุ่งมั่นโฟกัสในสนามซ้อมก็แสดงให้ถึงผลลัพธ์ที่น่าพอใจโดยเฉพาะยิ่งในส่วนของลูกโหม่งเพราะลูกโหม่งที่เจ้าตัวทำได้ทั้งหมด 4 ประตู ในฤดูกาลนี้เทียบเท่ากับลูกโหม่งที่เขาทำได้ทั้งหมดรวมกันตลอด 6 ฤดูกาลก่อนหน้า

การเข้ามาของ เอริค เทน ฮาก

แน่นอน ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมามีฟอร์มการเล่นที่เปล่งปลั่งอีกครั้งก็คงหนีไม่พ้นการเข้ามาของ เอริค เทน ฮาก ซึ่งถ้าวัดจากสถิติกุนซือชาวดัตช์พยายามปรับวิธีการเล่นและแท็คติกให้ดึงศักยภาพของดาวเตะวัยเบญเพศมากที่สุดโดยสิ่งแรกที่อดีตกุนซือ อาแจ็กซ์ฯ ทำคือจับให้เจ้าตัวลงเล่นในตำแหน่งที่ถนัดที่สุดนั่นก็คือทางด้านหน้าฝั่งซ้ายซึ่งเจ้าตัวได้ลงเล่นในตำแหน่งนี้ถึง 54 % จากนาทีทั้งหมดที่ลงสนามผิดกับตอนที่ โอเล่ กุนน่าร์ โซลชา และ ราล์ฟ รังนิก คุมทีมเพราะ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ลงเล่นในตำแหน่งหน้าฝั่งซ้ายเพียง 23% เท่านั้นจากจำนวนนาทีที่ลงเล่นให้กับ 2 กุนซือ

อย่างที่สองคือปรับตำแหน่งการรับบอลของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ให้เข้ามาใกล้ประตูมากขึ้นเพราะในตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาตำแหน่งการรับบอลของเขาส่วนใหญ่อยู่ตรงด้านกว้างของสนาม ซึ่ง เอริค เทน ฮาก ต้องการเขยิบตำแหน่งของ แรชฟอร์ด เพื่อที่เจ้าตัวจะได้ใช้จุดเด่นในการเลี้ยง,ความเร็ว และความแข็งแกร่งได้อย่างอันตรายต่อฝ่ายตรงข้ามมากที่สุด นอกจากนี้กุนซือวัย 52 ปี ยังคว้าตัว เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ อดีตกองหน้าของ เอฟซี ปอร์โต้ และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ให้เข้ามาเป็นโค้ชกองหน้าอีกซึ่งดาวเตะผู้ไต่เต้ามาจากอคาเดมี่ของสโมสรก็ออกมาชื่นชมอดีตกองหน้าทีมชาติแอฟริกาใต้ว่า “เขา (เบนนี่ แม็คคาร์ธี่) ช่วยผมได้มาก”

ละนี่ก็เป็น 3 เหตุผลที่ทาง ทันเกม มองว่าทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาฟอร์มกระฉูดอีกครั้ง ดังนั้นเราก็ต้องมาตามดูกันต่อว่า แรชชี่ จะสามารถคงฟอร์มการถล่มประตูแบบนี้ต่อไปรวมถึงจะพาต้นสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ไกลแค่ไหนในฤดูกาลนี้