3 เหตุผลส่ง ขุนค้อน ฟอร์มไฉไล | TunGame

แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายๆคนในช่วงนี้อาจจะเสียดายชายที่ชื่อว่า เดวิด มอยส์ พอสมควร หลังในปัจจุบันกุนซือวัย 58 ปี กำลังพาต้นสังกัดปัจจุบันอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทำผลงานติดลมบนทั้งใน พรีเมียร์ลีก และ ยูโรปา ลีกดังนั้น ทันเกม จะพาไปชม 3 เหตุผลที่ มอยส์ ทำให้ทีมขุนค้อนฟอร์มติดปีก

เนื้อหา

ทำผลงานได้อย่างสุดติ่งกระดิ่งแมวจริงๆสำหรับกุนซือที่ (เคย) โดนแฟนบอลแซวเละเทะอย่าง เดวิด มอยส์ หลังพา เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ผงาดขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีกหลังผ่านการเล่นไป 11 นัด และมีแต้มตามหลังทีมจ่าฝูงอย่าง เชลซี เพียง 3 คะแนน ดังนั้น ทันเกม จะพาแฟนเพจไปเจาะถึง 3 ประเด็นที่ส่งให้ทีมขุนค้อนฟอร์มแรงได้ขนาดนี้

ทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอ  

นับตั้งแต่ เดวิด มอยส์ เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมเป็นครั้งที่ 2 กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในช่วงปีใหม่ของปี 2020 อดีตกุนซือผู้ถูกเลือกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงสโมสรนี้จากทีมที่มีแต้มอยู่เหนือโซนตกขั้นเพียง 1 คะแนนให้กลายมาเป็นทีมที่มีลุ้นไปเล่นในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งในฤดูกาลล่าสุด (ฤดูกาล 2020 / 2021) พวกเขาพลาดการเข้าไปเล่นในถ้วยบิ๊กเอียร์ด้วยการหลุดพื้นที่อันดับ 4 ไปเพียงแค่ 2 คะแนน

อย่างไรก็ดี ถึงแม้หลายคนจะยังปรามาสในความสามารถของกุนซือเลือดสก็อตต์ว่าจะเก่งแค่ฤดูกาลเดียวหรือไม่ แต่ มอยส์ กับลูกทีมก็สามารถตอกกลับคำสบประมาทเหล่านี้ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องโดยถ้านับแค่ปี 2021 เวสต์แฮม เก็บคะแนนในลีกไปแล้วถึง 65 คะแนน โดยเป็นรองเพียงแค่แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิติ้ (80 คะแนน) และแชมป์ยุโรปอย่าง เชลซี (66 คะแนน) เพียง 2 ทีมเท่านั้น

เกมส์รับมีวินัย

ต้องชื่นชมเลยว่าจุดเด่นของแผงแบ็คโฟร์ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คือความมีระเบียบวินัยโดย เดวิด มอยส์ เลือกที่จะให้ลูกทีมรักษาทรงเกมส์รับในแดนตัวเองมากกว่าที่จะให้ขึ้นไปเพรสด้านบน ซึ่งกองหลังทั้ง 4 ตัวรวมถึงมิดฟิลด์คู่กลางทั้ง 2 คนก็สามารถเล่นตามแผนที่เจ้านายของพวกเขาวางไว้ได้อย่างได้ไม่มีที่ติโดยเล่นเกมส์รับในแดนตัวเอง บังคับให้ฝั่งตรงข้ามเล่นออกด้านข้างและถ้าฝั่งตรงข้ามตัดสินใจครอสบอลเข้ามา มันก็ค่อนข้างชัวร์ว่านักเตะขุนค้อนอย่าง เคิร์ต ซูม่า , อันเจโล่ อ็อกบอนน่า หรือแม้กระทั่ง โธมัส ซูเช็ค ที่ทั้งหมดโดดเด่นในเรื่องลูกกลางอากาศจะสามารถเก็บกินได้เกือบหมด

นักเตะอีก 1 คนหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ เดแคล็น ไรซ์ กองกลางพลังไดนาโมที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่อดีตกุนซือเอฟเวอร์ตันเข้ามาคุมทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาลนี้ที่สถิติของกองกลางทีมชาติอังกฤษกับทีมขุนค้อนเข้าขั้นโหดเอามากๆหลังเขามีสถิติการเข้าปะทะ การบล็อค การแย่งบอล การจ่ายบอล เป็นอันดับ 1 ของสโมสรรวมถึงเป็นอันดับท็อปๆ ของพรีเมียร์ลีก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่า มอยส์ ออกมากันท่าทีมอื่นๆไว้ก่อนว่าถึงจะยื่นมา 100 ล้านปอนด์ เขาก็จะไม่มีทางขายกองกลางตัวเก่งของทีมออกไปอย่างแน่นอน

เกมส์โต้กลับและลูกเซ็ตพีซสุดคม

นอกจากเกมส์รับที่แข็งแกร่ง เกมส์รุกของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็เข้าขั้นคมสุดๆหลังเป็นทีมที่ยิงได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีกตามหลังเพียงแค่ทีมอย่าง ลิเวอร์พูล และ เชลซี ซึ่งการที่ทีมจากลอนดอนตะวันออกยิงได้เยอะขนาดนี้เกิดจากกลยุทธ์ที่ เดวิด มอยส์ เลือกใช้ 2 อย่าง

อย่างแรกคือเกมส์โต้กลับที่มีประสิทธิภาพด้วยการมีกองหน้าตัวเป้าที่ตะบันไปแล้ว 6 ประตูในลีกอย่าง มิคาอิล อันโตนิโอ อาศัยความแข็งแกร่งเก็บบอลด้านบน และอาศัย 3 กองกลางตัวรุกที่มีความว่องไวอย่าง ซาอิด เบนราห์มา รวมถึง 2 กลางรุกที่ฟอร์มแรงในช่วงหลังทั้ง ปาโบล ฟอร์นาลส์ และ จาร์ร็อด โบเว่น ทะลวงเกมส์รับคู่แข่งในจังหวะโต้กลับ

อย่างที่สองคือลูกตั้งเตะที่หวังผลได้บ่อยครั้งโดยถ้านับตั้งแต่ มอยส์ เข้ามาคุมทีม เวสต์แฮม ถือเป็นทีมที่ทำประตูได้จากลูกเซ็ตพีซมากที่สุดของพรีเมียร์ลีกซึ่งก็เห็นได้ชัดในเกมส์กับ เอฟเวอร์ตัน, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ ลิเวอร์พูล ว่าลูกเซ็ตพีซถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทีมขุนค้อนคว้าชัยชนะในเกมส์ดังกล่าวทั้งหมด

และนี่ก็เป็น 3 เหตุผลที่ทำให้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ฟอร์มแรงได้ขนาดนี้ และถ้าทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องเราก็อาจจะได้เห็น เดวิด มอยส์ สร้างผลงานชิ้นโบแดงของตัวเองอีก 1 ชิ้นด้วยการพาสโมสรขุนค้อนไปเล่นในเวที ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์สโมสร