‍

เก็บตก 3ประเด็นหลังเกมส์พรีเมียร์ลีกสัปดาห์ที่6

ผ่านพ้นกันไปแล้วสำหรับศึกพรีเมียร์ลีกในวีคที่6 ของฤดูกาล 2021/2022 ซึ่งบอกได้เลยว่ามีประเด็นต่างๆที่น่านำมาพูดคุยกันอย่างมากมายดังนั้นทันเกมจะมาพูดถึง 3 ประเด็นที่น่าสนใจหลังจบการแข่งขันในนัดที่ผ่านมา(เขียนก่อนเกมส์ คริสตัล พาเลซ VS.ไบร์ทตันฯ)

ทีมนำต่างพลาดกันหมด

ก่อนเริ่มการแข่งขันในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีถึง3 สโมสรที่มีแต้มเท่ากันได้แก่ลิเวอร์พูล, เชลซี และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตามทั้ง 3 ทีมต่างสะดุดพลาดกันหมดหลังจบโปรแกรมนัดที่6

เริ่มต้นจากสิงโตน้ำเงินครามเชลซี ที่เปิดรังพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิติ้ ไป 0-1 ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเกมส์ที่กุนซืออย่าง โธมัสทูเคิ่ล อาจจะมั่นใจในเกมส์รับของตนเองมากไปหน่อยและปล่อยให้ลูกทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ครองบอลเข้าใส่ก่อนจะได้ประตูชัยจากกาเบรียล เชซุส ในนาทีที่ 53 โดยนอกจากจะแพ้ในลีกเป็นนัดแรกของฤดูกาลความปราชัยในแมทช์นี้ยังเป็นความปราชัยแรกที่ ทูเคิ่ล เสียท่าให้กับ เป๊ปนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมในอังกฤษ ส่วนในฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิติ้ นั้น ต้องบอกว่าเกมส์รับของพวกเขาแข็งแกร่งจริงๆเพราะนับตั้งแต่แพ้ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ในนัดเปิดฤดูกาล พวกเขาก็ยังไม่เสียประตูในลีกให้ใครอีกเลย

อีก 1 ทีมที่แพ้ในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดแรกก็คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่พ่ายต่อ แอสตัน วิลล่า ไป 0-1 คาโอล์ดแทรฟฟอร์ดซึ่งนี่ถือเป็นชัยชนะนัดแรกของทีมสิงห์ผยองเหนือทีมปีศาจแดงนับตั้งแต่ปี 2009นอกจากนี้ความพ่ายแพ้รวมถึงฟอร์มการเล่นในนัดล่าสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ส่งให้เก้าอี้กุนซือของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร้อนขึ้นไปทีละนิดหลังแพ้ไปถึง 3 จาก 4นัดล่าสุดรวมทุกรายการและถ้าดูโปรแกรมในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนของปีศาจแดงงานหนักก็คงจะอยู่ที่กุนซือชาวนอร์เวย์เจี้ยนว่าจะสามารถเร่งฟอร์มของลูกทีมให้ขึ้นมาได้หรือไม่

ท้ายที่สุด แม้จะยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้แต่ผลเสมอของลิเวอร์พูล ในเกมส์กับ เบรนท์ฟอร์ด ที่เจอกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1988/1989 คงทำให้เหล่าเดอะ ค็อปเสียดายไม่น้อยหลังออกนำไปก่อนถึง 2 ครั้งแต่ด้วยความใจสู้ของนักเตะเดอะบีส์ ก็ทำให้พวกเขากลับมาตามมาตีเสมอได้ทั้ง 2 ครั้งและจบลงด้วยการเจ๊ากันแบบสุดมันส์ด้วยสกอร์ 3-3 อย่างไรก็ตามผลเสมอก็ส่งให้หงส์แดงนำเดี่ยวเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกด้วยการมีแต้มมากกว่าทีมอันดับ2 อย่างแมนเชสเตอร์ ซิติ้ อยู่ 1 คะแนน

ขุนค้อนและทอฟฟี่กลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม

หลังจากสะดุดแพ้ในแมทช์เดย์5 ทีมฟอร์มแรงประจำต้นฤดูกาลอย่างเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตันก็สามารถคัมแบ็คกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะได้อีกครั้ง

เริ่มต้นจากทีมขุนค้อนที่บุกไปพลิกแซงชนะลีดส์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น เอลแลนด์ โร้ด ด้วยสกอร์ 1-2 จากประตูชัยของกองหน้าตัวเก่งที่กลับมาจากการติดโทษแบนอย่างมิคาอิล อันโตนิโอ ในนาทีที่ 90 ซึ่ง 1 ประตูที่อดีตนักเตะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทำได้ก็ส่งให้เขาขึ้นนำเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกด้วยจำนวน 5ประตู ในขณะเดียวกันความพ่ายแพ้ของทีมยูงทองทำให้พวกเขาไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยในลีก6 เกมส์แรกของฤดูกาลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล1935/1936

ข้ามมาที่ฝั่งทอฟฟี่สีน้ำเงินกันบ้างโดยหลังจากบุกไปแพ้แอสตัน วิลล่า 3-0 ราฟาเอลเบนิเตซ ก็สามารถกระตุ้นให้ลูกทีมกลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้งหลังกลับมาเปิดบ้านชนะทีมบ๊วยอย่างนอริช ซิติ้ ได้ 2-0 ซึ่งชัยชนะในนัดนี้ส่งผลให้เอฟเวอร์ตัน เปิดหัวด้วยการชนะในบ้าน 3 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล1989 /1990 นอกจากนี้ 2 แข้งใหม่อย่าง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ และ ดามารายเกรย์ ยังคงทำผลงานได้อย่างร้อนแรงด้วย 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ตามลำดับ

ลอนดอนเหนือเป็นสีแดง

กลายเป็นมีผลงานที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิงสำหรับคู่อริจากลอนดอนเหนือหลังอาร์เซน่อล ของ มิเกล อาร์เตต้า เปิดเอมิเรสต์สเตเดี้ยม เอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ได้ 3-1ส่งผลให้ไก่เดือยทองไม่สามารถมาเอาชนะที่นี่ได้เลยนับตั้งแต่ปี2010

เรียกได้ว่าพลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังเท้าจริงๆสำหรับมิเกล อาร์เตต้า หลังกลับมาชนะ 3 นัดรวดในลีกซึ่งผลงาน 3 ประตูใน 34นาทีแรกในเกมส์กับ สเปอร์น่าจะเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เหล่า เดอะ กันเนอร์ส ได้เห็นนับตั้งแต่กุนซือชาวสแปนิชเข้ามาคุมทีมนอกจากนี้ผลงานของ 2 ลูกหม้อของทีมอย่างเอมิล สมิธ โรว์ และ บูกาโย่ซาก้าก็น่าจะทำให้แฟนบอลปืนใหญ่สบายใจและมั่นใจว่าจะฝากผี ฝากไข้ ไว้กับ 2 ดาวรุ่งผู้นี้ได้มากขึ้น

สำหรับ ท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ เอง ความพ่ายแพ้ในนัดนี้ก็ส่งผลให้พวกเขาแพ้ 3 เกมส์ติดในพรีเมียร์ลีกและเสียถึงนัดละ 3 ประตูซึ่งครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้น เกล็นฮอดเดิ้ล โดนไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมไก่เดือยทองในเดือนกันยายนปี 2003 ในขณะเดียวกันสเปอร์ เป็นทีมที่ 2 ของพรีเมียร์ลีกที่มีผลงานชนะ3 เกมส์แรกและแพ้ใน3 เกมส์ถัดมาต่อจากเอฟเวอร์ตัน ในฤดูกาล 1993/1994 ซึ่งในปีนั้นเหล่าขุนพลทอฟฟี่เมนส์จบฤดูกาลด้วยอันดับ17 รอดตกชั้นแบบหวุดหวิดในวันสุดท้ายของฤดูกาล

‍