ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำสัปดาห์ พร้อม พรีวิว “โค้งสุดท้าย” ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020/2021 | TunGame
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำสัปดาห์ พร้อม พรีวิว “โค้งสุดท้าย” ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020/2021
ผลบอลพรีเมียร์ลีก ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก โดย ทันเกม
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำสัปดาห์ที่ 30
เชลซี 2 – 5 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
ลีดส์ ยูไนเต็ด 2 – 1 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
เลสเตอร์ ซิตี้ 0 – 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
อาร์เซน่อล 0 – 3 ลิเวอร์พูล
เซาท์แทมตัน 3 – 2 เบิร์นลี่
นิวคาสเซิล 2 – 2 ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์
แอสตัน วิลล่า 3 – 1 ฟูแล่ม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ไบรท์ตัน
เอฟเวอร์ตัน 1 – 1 คริสตัล พาเลซ
วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2 – 3 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
พรีวิว “โค้งสุดท้าย”
การพักเบรกทีมชาติครั้งสุดท้ายของฤดูกาล 2020/2021 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว จากนี้แฟนบอลทั่วโลกจะได้รับชมฟุตบอลยุโรปในระดับสโมสรกันอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์
จนจบฤดูกาลกันเลย
ทันเกมขอพรีวิว “โค้งสุดท้าย” ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ ว่ายังมีอะไรให้แฟนบอลได้ติดตามกันในช่วงสุดท้ายของฤดูกาลกันบ้าง
“แชมป์”
เป็นอะไรที่แทบจะไม่ต้องลุ้นกันแล้วสำหรับตำแหน่ง “แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ฤดูกาลนี้ โดยหากไม่มีอะไรผิดพลาด แชมป์น่าจะตกเป็นของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ที่ทำผลงานในปีนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมเกินใคร
โดยหากจะให้ทีมรองจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมือง หวังจะลุ้นแซงทีมเรือใบได้นั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องชนะเกมที่เหลือทั้งหมด แล้วลุ้นให้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำแต้มหลุดมือถึง 12 แต้ม จึงจะมีโอกาสแซงหน้าคว้าแชมป์ไปได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากๆ
“ท๊อปโฟร์”
ถือเป็นไฮไลท์สำหรับโค้งสุดท้ายของฤดูกาลนี้เลยทีเดียว สำหรับการลุ้นตำแหน่ง “ท๊อปโฟร์” ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพื่อแย่งชิงสิทธิการเข้าไปเล่นเวทีใหญ่ของยุโรปอย่าง
ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า โดยเฉพาะการแย่งอันดับที่ 4 ซึ่งเป็นที่ตั๋วใบสุดท้ายสำหรับการได้ผ่านไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
2 ทีมที่หากไม่เกิดฟอร์มสะดุดแบบน่าเกลียดก็คงไม่หลุดท๊อปโฟร์ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 และ 3 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ในปัจจุบัน โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคะแนนทิ้งห่าง เชลซี ทีมอันดับที่ 5 ปัจจุบัน อยู่ 9 คะแนน และ เลสเตอร์ ซิตี้ มีคะแนนทิ้งห่างอันดับที่ 5 อยู่ 5 คะแนน
แต่ เลสเตอร์ ซิตี้ อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะเหลือโปรแกรมแข็งๆ 3 เกมที่ต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์, และเชลซี ในช่วง
ท้ายฤดูกาลแล้ว พวกเขาเพิ่งมีประสบการณ์ร่วงจากท๊อปโฟร์อย่างเจ็บช้ำน้ำใจเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ทีมจิ้งจอกสยามพ่ายให้ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล
โดนปีศาจแดงแซงขึ้นไปจบท๊อปโฟร์แบบไม่มีโอกาสทวงคืน ทั้งๆที่ทีมของพวกเขาอยู่ในท๊อปโฟร์มาแทบจะทั้งฤดูกาล
และที่ต้องฟาดฟันกันอย่างดุเดือดที่สุดต้องยกให้การแย่ง อันดับที่ 4 ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในปีนี้ โดยมีทีมที่ยังอยู่ในข่ายถึง 5 ทีมด้วยกัน ได้แก่ทีมอันดับ 4-8 อย่าง
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 52 คะแนน, เชลซี 51 คะแนน, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 49 คะแนน, ลิเวอร์พูล 49 คะแนน, และ เอฟเวอร์ตัน 47 คะแนน (เอฟเวอร์ตัน ลงแข่งน้อยกว่า
ทีมอื่นอยู่ 1 เกม)
หลังจากผลการแข่งขัน สัปดาห์ที่ผ่านมา บ่อนการพนันถูกกฎหมายในประเทศอังกฤษได้จัดอันดับให้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะจบในอันดับ 4 ทั้งๆที่ปัจจุบัน
ลิเวอร์พูล อยู่อันดับ 7 ของตารางมี 49 คะแนน ตามหลังเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ที่มี 52 คะแนน อยู่ 3 คะแนน แต่ด้วยดีกรีของแชมป์เก่าที่เพิ่งคืนฟอร์ม
ถล่มอาร์เซน่อลไป 3 – 0 ทำให้บ่อนยังเชื่อว่าแชมป์เก่าจะคืนฟอร์มและจบอันดับ 4 ไปได้
แต่หากไม่นับ อัตราต่อรองที่บ่อนได้กำหนดออกมาแล้วดูในความเป็นจริงแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากมากๆว่าทีมไหนจะเข้าป้ายจบอันดับ 4 ไปได้ เพราะฟอร์มการเล่น
ของทุกทีมนั้นสู้สีกันมากจริงๆ เรียกได้ว่าทุกเกมของทั้ง 5 ทีมจากนี้ มีความสำคัญในทุกๆเกม หากทีมไหนพลาดขึ้นมาอาจจะเป็นการปิดประตูสู่เวที ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เลยก็ว่าได้
“หนีตกชั้น”
หากไม่มีอะไรผิดพลาด 2 ทีมที่น่าจะต้องโบกมือลาเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษน่าจะเป็น เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมรองบ๊วย และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยของตารางคะแนน โดย
เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมอันดับ 19 มีคะแนนห่างจากทีมอันดับ 17 นิวคาสเซิล ถึง 8 แต้ม และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 20 มีคะแนนห่างจากอันดับที่ 17 ถึง 15 แต้ม
ส่วนทีมที่ต้องแย่งชิงกันเพื่ออยู่รอดได้แก่ นิวคาสเซิล ทีมอันดับ 17 และ ฟูแล่ม ทีมอันดับ 18 ของตาราง โดย นิวคาสเซิล แข่งไปแล้ว 30 เกม มี 29 คะแนน ส่วน ฟูแล่ม แข่งไป 31 เกม
มี 26 คะแนน ดูเหมือน นิวคาสเซิล จะมีภาษีที่ด้วยกว่า ด้วยคะแนน ณ ปัจจุบัน แถมยังมีเกมที่ยังไม่ได้ลงแข่งมากกว่า ฟูแล่ม อยู่ 1 เกม
แต่อย่างไรก็ตาม ฟอร์มการของทั้ง 2 ทีมนี้ยังคงเป็นปัญหาอยู่ด้วยกันทั้งคู่ โดย 5 เกมหลังสุดของ นิวคาสเซิล พวกเขา เสมอถึง 4 เกม แพ้ 1 เกม ส่วน ฟูแล่ม ชนะ 1 เกม แพ้ไป ถึง 4 เกม
หากมีทีมไหนที่สามารถเรียกฟอร์มการเล่นออกมาได้ ขอแค่เพียงเกม 2 เกม สถาณการณ์ก็พร้อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และหากตัดสินกันไม่ได้จนถึงท้ายฤดูกาล ทั้ง 2 ทีมนี้จะต้องพบกันเอง
ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล คงเป็นเกมที่สนุกน่าดูหากทั้ง 2 ทีมต้องไปวัดกันในนัดนั้นจริงๆ
support
แชร์เนื้อหา